โดย หมอโจ
มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 60.2
เหนือฟ้ายังมีฟ้า
เหนือฝ้า..ก็ยังมีฉนวน
ผมก็วางมัดจำไป ที่เหลือจะคิดจากพื้นที่ ที่พ่นจริง ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ก็หักลบ
กลบหนี้กันตามนั้น ถึงวันนัดมาพ่นโฟม แทบจะเรียกว่า
“ยกโรงงานมาไว้บ้านผมเลย”
ก็ดูสภาพสิครับ
นี่ถังน้ำยานะครับ ไม่ใช่ปั้มหลอด
นี่ก็ปั๊มลม กับเครื่อง
ที่ช่วยอัดน้ำยา..ไปตามสาย
จากที่ผมเห็น เค้าจะมีถังน้ำยาเคมี 2 ถังแยกกัน และมีวอร์มเมอร์ซึ่งช่างบอกว่า
เสีย! เลยใช้สปอร์ตไลท์คอยให้ความอบอุ่นแทน (คิดได้ไงเนี่ย)
แล้วก็มีปั๊มลมขนาดใหญ่เดินเครื่องแทบตลอดเวลา เสียงมันดังมากเลยครับ
ยังกะโรงสีแน่ะ จากปั๊มก็จะมีสายท่อที่ลำเลียงน้ำยาและลมมายังหัวพ่น
นี่ครับหัวพ่นโฟม
สังเกตุว่าจะมีสายอยู่ 3 เส้น
สองสายเป็นสายน้ำยาสองตัวที่แยกกันมาคนละเส้น ส่วนสายอีกเส้นหนึ่งเป็น
สายที่มีแต่ลม สาเหตุที่ต้องแยกทางกันเดิน ก็เพราะเราเข้ากันไม่ได้ เป็นพี่
เป็นน้องกันดีกว่า..ขอยืมสำนวนฮิตของดาราเวลาเลิกกัน มาใช้หน่อย
มันเข้ากันไม่ได้จริงๆครับ เพราะว่าน้ำยาสองตัวเนี่ย ถ้าเจอกันปุ๊ป มันจะทำ
ปฏิกิริยากันทันที เกิดเป็นโฟมที่ขยายตัวพองขึ้น มากกว่าเดิมหลายเท่า
ผมเองเคยเห็นเจ้าน้ำยาที่ว่านี้
มาก่อนหน้านี้..ทีนึงแล้วครับ
ตอนนั้นไปดูช่างกายอุปกรณ์เค้าทำขาเทียม เค้าก็จะผสมน้ำยา 2 ตัวนี้รวมกัน
ในเวลาไม่กี่วินาทีมันก็จะพองตัวขึ้นตามแบบที่เข้าไว้ แล้วแข็งตัว จากนั้น
ช่างกายอุปกรณ์เค้าก็จะ เอามาแต่งเป็นรูปขาอีกที
ถ้าสมัยก่อน เค้าจะใช้ไม้เป็นตัวแกนขาเทียม แล้วเหลาให้เป็นรูปขา ข้อเสียคือ
มันหนักครับ แต่พอใช้พียูโฟมมาเหลาเป็นขา มีแกนอลูมิเนียมหรืออัลลอยด์
อยู่ภายใน น้ำหนักขาเทียมก็จะเบาขึ้นมาก (ตัวโฟมนี่มันลอยน้ำได้นะครับ)
ออกนอกเรื่องไปหน่อย
กลับมาที่เรื่องหัวพ่นต่อนะครับ
น้ำยา 2 ตัวที่ว่า ก็เลยต้องแยกทางกันเดินมายังหัวพ่น ที่จะพ่นลมพร้อมน้ำยา
ทั้งสอง..ไปที่ใต้หลังคา ให้ไปเกิดปฏิกิริยาพองตัวเกาะติดท้องพื้นหลังคา
การพองตัวของมันเกิดขึ้นเร็วมากครับ 2-3 วินาที ก็แข็งตัว เอ่อ. . .
(ผมพูดถึงโฟมนะครับ ไม่ใช่อย่างอื่น)
ไปดูภาพดีกว่า อย่าฟังไอ้หมอขี้โม้นี่เลย
-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป-
ไปหน้าสารบัญ
ประสบการณ์การสร้างบ้าน
39 User Online