ก. ความผิดพลาด..ในการควบคุมงบประมาณระหว่างการออกแบบ !!

ตกลงกั[สถาปนิกขณะออกแบบบ้านเรื่องงบประมาณไว้
พอเอาแบบก่อสร้างไปตีราคา
ราคาที่ผู้รับเหมาเสนอมา "สูงเกินกว่า" ที่ตกลงไว้ขณะออกแบบมากเกินไป
ทำให้ไม่สามารถก่อสร้างบ้านได้
แจ้งสถาปนิกแก้ไขแบบ
แบบที่ทำการแก้ไข..ยิ่งแก้ยิ่งเละ
ทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกเป็นพรวน !!

ข. แบบก่อสร้างมีข้อผิดพลาด ขาดความชัดเจน!!

เรื่องแบบก่อสร้างผิดพลาด ขาดความชัดเจน นี่..
มีให้เห็นบ่อยครับ
มูลค่าความเสียหาย
ขึ้นอยู่กับจุดที่ผิดพลาด และความไม่ชัดเจนของแบบก่อสร้าง

บ้านบางหลัง..นอกจากเสียหายเป็นเงินแล้ว
ยังไม่สามารถก่อสร้างได้ตามแบบที่ทำไว้อีกด้วย

แบบก่อสร้างที่ขาดความชัดเจน
ทำให้ผู้รับเหมา "ตีความ" ในแบบก่อสร้างผิดพลาด
ทำให้เสนอราคา "ผิดพลาด"ตามไปด้วย
แบบก่อสร้างลักษระดังกล่าว
เปิดช่องให้ผู้รับเหมา เอาเปรียบผู้ว่าจ้างได้อีกด้วย !!

ค. โครงสร้างใหญ่โต เกินความจำเป็น !!

งานเสาเข็ม
เคยพบว่า..
บ้านประมาณ 400 ตร.ม.
ใช้เสาเข็มมากเกินจำเป็น คิดเป็นมูลค่าประมาณสองแสนกว่าบาท

เคยพบว่า..
บ้านประมาณ 1000 ตร.ม
ใช้เสาเข็มมากเกินจำเป็นประมาณ 1 ล้านบาท

ซึ่งทั้ง 2 หลังดังกล่าว ได้ทำการแก้ปัญหาให้กับลูกค้า
โดยเปลี่ยนวิศวกรผู้ออกแบบใหม่ !!

งานโครงสร้าง
โครงสร้างใหญ่โต..มันก็ดีอยู่นะครับ
แต่มันไม่ควรใหญ่โต เกินความจำเป็น
ซึ่งงในส่วนที่ใหญ่โต..เกินความจำเป็นนี้อง
เป็นส่วนที่คุณต้องจ่ายเพิ่ม แล้วไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
สาเหตุอาจมาจาก..
สถาปนิกใช้วิศวกรออกแบบโครงสร้างที่ "ไม่มีประสบการณ์มากพอ"
หรือ
จ่ายค่าจ้างให้กับวิศวกรน้อยเกินไป !!

ง. ความร่วมมือ..ในการตอบข้อสงสัยระหว่างการก่อสร้าง

ปัญหาเรื่องไม่ค่อยให้ความร่วมมือ
ในการตอบข้อสงสัยกรณีแบบก่อสร้างมีปัญหา
พบบ่อยๆ ในส่วนของวิศวกร
บางท่านกว่าจะตอบข้อสงสัยได้ ต้องใช้เวลาหลายวัน
บางคนไม่ให้ความร่วมมือเลย
ความเสียหาย ก็ตกอยู่กับลูกค้าสร้างบ้านครับ

พอได้แบบก่อสร้างจากสถาปนิกแล้ว..
ไปดูผลงานของผู้รับเหมาแล้ว "พอใจ"
เอาแบบก่อสร้าง ส่งให้ผู้รับเหมา "ตีราคา" เลย

แบบนี่แหละ..
ที่ผมพูดว่า.."คุณว่าจ้างผู้รับเหมา..ผิดวิธี "

ผมรู้ครับว่า..
ท่านที่มีเงินมาสร้างบ้านก็เพราะท่านประสบความสำเร็จในอาชีพของท่าน
อย่างน้อยก็ "ระดับหนึ่ง" กันทั้งนั้น

บางท่านก็เป็น "จ้าวป่า"
ใน "วิชาชีพ" ที่ท่านทำมาหากินด้วยซ้ำไป !!

แต่ขอโทษนะครับ..
พอท่านเข้ามาใน "ป่าแห่งการสร้างบ้าน"
ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับ "หมูป่าเขี้ยวตัน" ในป่าแห่งนี้
อาจมี ฤทธิ์เดช แต่ก็มีข้อจำกัด..
เพราะความไม่รู้ในวงการรับสร้างบ้าน

ในป่าแห่งการสร้างบ้าน..
ผู้รับเหมาก็เปรียบได้กับพวกเสือร้าย ที่คอยขม้ำเหยื่อ

หมูป่าเขี้ยวตัน
ก็เป็น "เหยื่อ" อันโอชะของเสือร้ายพวกนั้น

ส่วนคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้าน..
อาจเป็น "เทวดา" ผู้ทรงธรรมประจำป่า
และอาจเป็น "วิญาณร้าย" ที่แสดงตนในคราบของคนดี

เพราะเหตุดังกล่าวเรา..
เราจึงได้ยินข่าวการทิ้งงานสร้างบ้าน..อยู่บ่อยๆ
ความเสียหายมีตั้งแต่ระดับ "แสน" ไปจนถึง ระดับ "ล้าน"

แต่สิ่งที่ไม่ค่อยได้ยิน..
และมีความเสียหายมากกว่าการทิ้งงาน ก็มีอยู่ คือ..
การถูกผู้รับเหมา "โก่งราคา"

สถาปนิกบางคน นี่ตัวร้ายเลย !!
แนะนำผู้รับเหมาให้กับลูกค้าสร้างบ้าน 3-4 ราย
(พรรคพวกตัวเองทั้งนั้น)
คิดเงินค่าออกแบบไปแล้ว
ยังกินหัวคิวค่าก่อสร้างอีกเป็น"ล้าน"

ฝ่ายลูกค้าสร้างบ้าน..
ผู้เปรียบได้ดัง "จ้าวป่า"ในวิชาชีพของตน
ในนาทีที่จะตัดสินใจ.."เลือก" ผู้รับเหมาเพื่อเซ็นต์สัญญาสร้างบ้าน
ก็จะอาจแปลงร่างกลายเป็น "สมันน้อย"
ด้วยการสอบถามสถาปนิกว่า

จะเลือกผู้รับเหมา "คนไหนดี"

ซึ่งไม่ว่าจะเลือกใคร..ก็เข้าทางเขาทั้งนั้น

(ต้องขอภัยสถาปนิกทุกท่านที่เป็นคนดี
มีความซื่อสัตย์ มีจรรยาบรรณด้วยนะครับ ไม่มีพฤติกรรมที่กล่าวข้างต้น
ผมขออนุญาตเปรียบพวกท่านในป่าแห่งการสร้างบ้านว่าเป็น "เทวดาประจำป่า")

จึงไม่แปลกอะไรเลย..
เวลาที่ลูกค้าสร้างบ้านเอาแบบก่อสร้างมาให้ "ซีเล็คคอน"ดู
ในกลุ่มลูกค้า ไฮโซๆ
ราคาที่ผู้รับเหมาเสนอไว้เดิมกับลูกค้าสร้างบ้าน
จึงแพงกว่า..ราคาที่ "ซีเล็คคอน"คิดได้ หลายล้านบาท

 

การไม่เคลียร์แบบก่อสร้าง ก่อนนำแบบก่อสร้างไปตีราคา
ก็อาจทำให้ลูกค้าสร้างบ้าน เสียหายเป็นสิบล้านบาทได้

อย่างลูกค้ารายนี้..
ถ้าไม่มาเจอซีเล็คคอน..ก็ต้องจ่ายเกินจริง 10.48 ล้าน

รู้สึกว่าบทความจะยาวไปแล้ว
ผมขอสรุปความเสียหาย อันเนื่องมาจาก การว่าจ้างสร้างบ้าน "ผิดวิธี"ไว้ดังนี้

เอาแบบก่อสร้างให้ผู้รับเหมาตีราคา โดยไม่ได้เคลียร์แบบ

ไม่ฟิกซ์รายการวัสดุ ไม่ฟิกซ์วิธีการก่อสร้าง

ว่าจ้างโดยที่ไม่รู้ว่าราคาค่าก่อสร้างที่แท้จริงควรเป็นเท่าไร ?

กดราคาผู้รับเหมา แล้วคิดว่าตนเอง "จ้างได้ถูก"

ถูกผู้รับเหมาโก่งราคา เพราะไม่รู้ว่าจะต่อรองอย่างไร ?

ให้คนที่รู้ไม่จริงเรื่องการว่าจ้าง มาว่าจ้างให้กับคุณ

ไม่มีกลไกป้องกันความเสียหาย เวลาถูกเอาเปรียบหรือโดนทิ้งงาน

เชื่อว่า..โดยใช้ความรู้สึก

ใช้ร่างสัญญาที่เสียเปรียบ
ร่างสัญญาที่ใช้กันในวงการ ผู้ว่าจ้างเสียเปรียบครับ บางท่านอาจคิดว่า ให้ทนายดู ทนายน่ะเก่งแน่เรื่องข้อกฏหมายแต่ไม่รู้ทางหนทีไล่ในวงการก่อสร้าง

คิดกันไหมครับว่า..
จรดปากกาว่าจ้างสร้างบ้านแล้ว

ระหว่างการก่อสร้างจะตรวจสอบงานอย่างไร ?

เข้ามาที่หน่วยงาน..ดูงานก่อสร้าง หรือครับ ?

จ้างคนมาตรวจสอบงานก่อสร้าง หรือครับ ?

กรณีเข้ามาดูงานก่อสร้างเอง ลูกค้าสร้างบ้านดูรู้ไหมครับ ?

กรณีจ้างคอนเซ้าท์ (ที่ปรึกษาควบคุมงานฯ) ตรวจงาน
เกิดที่ปรึกษาควบคุมงาน ถามช่างว่าฯ มีคำถามว่า..
"ช่างทำไมทำงานแบบนี้ล่ะ ?"

หากผู้รับเหมาตอบว่า "ก็ผมตีราคาไว้แบบนี้ครับ"
ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้นลูกค้าสร้างบ้าน "จ่ายเงิน" ไปมากกว่าเนื้องานแล้ว

ครั้นจะไปว่าอะไร ผู้รับเหมามาก ก็กลัวโดนทิ้งงาน

ปัญหาของ..
การไม่มีมาตรฐานการทำงานไว้เปรียบเทียบ
ร้ายแรงกว่าที่คิดครับ !!

ดูวีดีโออีกสักครั่้ง
ปัญหาของบ้านหลังนี้ส่วนหนึ่งก็มาจาก
การที่ลูกค้าสร้างบ้าน
ไม่มีเครื่องมือตรวจสอบงานก่อสร้างบ้านของตนเอง