ตลาดซื้อขายบริการรับสร้างบ้าน เพื่อการ..ว่าจ้างสร้างบ้าน..แบบ วิน วิน

 

ประสบการณ์สร้างบ้าน
เรื่องจริงผ่านเน็ท โดยเจ้าของบ้าน

 


โดย หมอโจ

มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 5
จะสร้างบ้านเอง.. เริ่มต้นตรงไหนดี ?

พอเอ่ยปากว่าจะสร้างบ้านเองกับเพื่อนสนิทที่เป็นหมอด้วยกัน
ผมก็โดนเจ้าเพื่อนบังเกิดเกล้าซักฟอกซะยิ่งกว่านายกโดนซักฟอกในสภาเสียอีก

หนึ่งในคำถามที่คลาสสิก มากที่จำได้
ก็คือคำถามสั้นๆ ที่ว่า “แล้วจะเริ่มต้นตรงไหนล่ะ”

นั่นสิ แล้วผมจะเริ่มต้นตรงไหน และเริ่มยังไงดีล่ะ ยังไม่รู้เลยนะเนี่ย
แหะๆ ล้อเล่นครับ

ซ้าย ส่วนหนึ่งของเอกสารที่ได้รับแจก 
ขวา รูปและแปลนบ้านที่บริษัทรับสร้างบ้าน นำเสนอให้ลูกค้าเลือก

เพราะจริงๆแล้ว หลังจากที่หาข้อมูลมาพอสมควร เราก็จะพอเก็ทไอเดียมาบ้างแล้วละครับ
ว่า เราควรจะเริ่มต้นคุยกับใคร ที่จะช่วยสานฝันเราได้
จะเป็นสถาปนิก ผู้รับเหมา หรือบริษัทรับสร้างบ้าน
หรือบางคนเน้นประหยัด จะไปขอแบบบ้านสำเร็จรูปจากทางราชการมาสร้างเลย
อันนี้ก็ไม่ว่ากัน แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป

ตอนแรกผมกับน้องสาว(ของพี่ชายแฟน)ก็ลังเลครับว่า
จะจ้างบริษัทรับสร้างบ้านทำให้ตั้งแต่ต้นจนจบเลยดี หรือ หาสถาปนิกออกแบบให้ก่อน

ก่อนจะเอาแบบที่ได้ไปหาผู้รับเหมามาสร้างให้
เราก็เลยศึกษาข้อมูลมันทั้ง 2 ด้านพร้อมๆกันเลย เพื่อช่วยตัดสินใจ
(จะใช้วิธีเป่ายิ้งฉุบตัดสินก็ใช่ที่อ่ะนะ บ้านราคาเป็นล้าน)

ฟลอร์แปลนของบริษัทรับสร้างบ้าน

วิธีแรก หาข้อมูลได้ไม่ยากครับ
แหล่งข้อมูลที่ได้กล่าวถึงเมื่อตอนที่แล้วจะมีโฆษณาของบริษัทเหล่านี้อยู่
รวมถึงงานรับสร้างบ้านที่จะจัดขึ้นทุกปีที่ศูนย์สิริกิตติ์

ผมเองก็ไปมา 2 ครั้งแล้วครับ ได้เอกสารมาเป็นกองๆ
จนไม่รู้จะเลือกบริษัทไหนดี (หลายคนก็คงเป็น)

วิธีที่ผมทำก็คือ เข้าไปพูดคุยกับเซลล์
(คุยอย่างเดียวนะห้ามหลี แฟนผมชำเลืองมองตลอด)

ดูแบบบ้าน ขนาด สไตล์ที่เราสนใจ และราคาอยู่ในงบ
จากนั้นตามธรรมเนียม เค้าก็จะมาให้เรากรอกนู่นกรอกนี่นิดหน่อย
แต่ผมจะระบุว่าจะสร้างอีก 1-2 ปีข้างหน้านู่น เอาไกลๆหน่อย จะได้ไม่ตื้อมาก

เสปคของบริษัทรับสร้างบ้าน 2 บริษัท

หลังจากนั้นเราก็จะได้เอกสารระบุราคาและสเปคคร่าวๆ กลับมา
(อันนี้สำคัญนะครับ ควรเก็บไว้ เพื่อเปรียบเทียบ
ไม่ว่าเพื่อนๆจะจ้างเค้าหรือสร้างบ้านเองก็ตาม)
ก่อนออกจากบู๊ธ เซลล์คนสวยเธอเข้ามาขอเบอร์โทรผมด้วยสิ
อ้า อะไรกัน รู้จักกันไม่ทันไรแอบทอดสะพานผมละ

“แล้วบริษัทจะติดต่อกลับไปนะคะ” 

แป่ว ! หุบยิ้มแทบไม่ทัน

กลับมาเข้าเรื่องต่อดีกว่าครับ (แฟนผมมองตาเขียวแล้ว) 
พอเพื่อนๆได้เอกสารจากหลายๆบริษัทมาแล้ว
ถ้าคิดจะใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน
เพื่อนๆควรจะเอาข้อมูลเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกันหลายๆบริษัท
หรือจะเข้าไปเทียบจากเมนูในหน้าเว็ปของ selectcon ก็ได้ครับ

ถ้าเป็นไปได้ควรจะเข้าไปพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมที่สำนักงาน
หรือไปขอดูบ้านที่กำลังก่อสร้างก็จะดีครับ
ถ้าให้ดีไปดูแบบไม่ให้เค้ารู้ล่วงหน้ายิ่งดีใหญ่

งวดงานก่อสร้างแต่ละงวดงานของแต่ละบริษัท แบ่งไม่เท่ากันครับ

แต่ผมไม่ได้ทำอย่างที่ว่าหรอกครับ (อ้าว แล้วจะเล่าทำไมล่ะเนี่ย)
เพราะระหว่างนั้นผมก็หาข้อมูลของวิธีที่ 2 ไปด้วย

พอมาเปรียบเทียบกัน ผมกับแฟนก็เลยคิดว่าจะไม่เลือกวิธีนี้
สาเหตุหลักที่ผมไม่เลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ก็เพราะเรื่อง แบบบ้าน ครับ
(จริงๆก็มีเหตุผลอื่นอีก แต่เป็นส่วนปลีกย่อยครับ ขอละไว้ละกัน)

โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าแบบบ้านที่แต่ละบริษัทมีก็จะคล้ายๆกัน
หน้าตาอาจจะต่างกันนิดๆหน่อยๆ แล้วแต่สไตล์ของบ้าน
คนทั่วไปพอไปดูแบบบ้านจะดูหน้าตาของบ้านก่อนใช่ไหมครับ
ก่อนที่จะดูต่อว่ามีพื้นที่ใช้สอยเท่าไหร่ กี่ห้องนอนกี่ห้องน้ำ
และจะปลูกลงบนที่ดินขนาดเท่าไหร่ พอดีกับที่ดินที่ตัวเองมีอยู่รึเปล่า

ลองคิดดูนะครับ ว่าลงจากรถแล้วเราจะเดินไปไหนต่อ

แต่ตัวผมเองจะมองจากแบบแปลนมาก่อนครับ
ว่าที่จอดรถอยู่ตรงไหน ห้องรับแขกเข้าทางใด บันไดแคบหรือกว้าง
ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำอยู่ส่วนไหนของบ้าน
ทั้งนี้เป็นเพราะที่ดินของผม หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือครับ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรับแดดเต็มๆในตอนเช้าทางหน้าบ้านและตอนบ่ายๆทางหลังบ้าน

ซึ่งแบบบ้านของบริษัทรับสร้างบ้านที่ออกแบบมาเสร็จแล้ว
ไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ แม้จะบอกว่า เราปรับให้คุณได้ครับ

แต่พอไปคุยด้วยจริงๆ เค้าก็จะไม่ค่อยอยากเปลี่ยน ถึงเปลี่ยนก็เปลี่ยนน้อยมาก
( อันนี้เข้าใจได้ เพราะการปรับเปลี่ยนมากๆ มีผลต่อต้นทุนครับ
เว้นแต่ว่าเราจะมีงบเยอะ เค้าก็....จัดให้)

ส่วนเรื่องหน้าตาภายนอกของบ้าน ผมว่ามันเหมือนหน้ากากมือถือน่ะครับ
จะเอาแบบไหน สไตล์ไหน เป็นเรื่องทีหลังมากกว่า

พื้นที่ใช้สอยที่มีให้ สอดคล้องกับความต้องการของเราหรือเปล่า

จากนั้นผมจะพยายามสมมุติตัวเองว่า...
ถ้าเราเดินเข้าบ้าน เราจะเข้าทางไหน ปกติเราจะเดินไปไหนก่อน
ลัดเข้าห้องครัวกินน้ำก่อน ก่อนจะเดินขึ้นชั้น2
เลยขึ้นห้องนอนไปเลย หรือต้องแวะห้องรับแขกเพื่อนั่งดูทีวีก่อน
เวลาทำครัวจะยกอาหารมาห้องทานข้าวทางไหน ฯลฯ

พยายามคิดถึงกิจวัตรหลักที่ทำในแต่ละวันน่ะครับ
ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันต้องอาศัย “จินตนาการ”เข้าช่วยครับ
(พยายามนึกภาพอาจารย์เฉลิมชัยยกมือสองข้างประกอบ)

บางคนอาจจะมโนภาพไม่ออก มองแปลนบ้านยังไงก็ไม่เก็ท โดยเฉพาะพวกผู้หญิง
(แฟนผมเธออ้างว่า เป็นความบกพร่องที่ระบบยีน บนโครโมโซมx
ทำให้เพศหญิงมีจุดด้อยเรื่องนี้ ...แหม อ้างโครโมซง โครโมโซมเชียว ไม่รู้มั่วรึเปล่าเนี่ย)

อันนี้ผมว่าสำคัญนะครับ... เพราะบ้านจะน่าอยู่
มันต้องมาจากภายในบ้านที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกคน

ผมชอบอ่านหนังสือเงียบๆ แต่แฟนชอบนอนดูทีวีเสียงดัง
บ้านก็ต้องออกแบบมาให้หาจุดลงตัวของเราสองคนให้ได้

แต่ถ้าเป็นบ้านที่ออกแบบมาเสร็จก่อนแล้ว
จะกลายเป็นเราเองต่างหาก ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับบ้าน

เมื่อคิดได้ดังนี้ เราสองคนจึงคิดว่า ควรจะหาสถาปนิกมาออกแบบบ้านให้จะดีกว่า
ว่าแต่ว่า จะไปตามหาคนที่เป็นสถาปนิกได้จากไหนล่ะ ไม่รู้จักใครซักคน

คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังครับ 

จริงๆไม่ว่าวิธีไหน ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้นแหละครับ แต่ผมขออนุญาตไม่พูดถึง
ไว้รอสถาปนิก กับคอนซัลแทนซ์ผมมาเล่าให้ฟังดีกว่า (โยนกันเห็นๆ)

อ้าว อึ๊บบ!! แหมรับลูกโยนคุณหมอเกือบไม่ทัน
พอดีเคยทำบทความไว้ ชื่อสร้างบ้านสักหลังว่าจ้างใครดี คลิกอ่านตรงนี้

การอ่านบทความดังกล่าว ขอให้ท่านผู้ชมอ่านโดยยึดหลักกาลามสูตร นะครับ
คือ อย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น จนกว่าจะพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง 

แฮะๆ ผมรอดตัวแล้วนะคร้าบ พี่สถาปนิก (ถือโอกาสโยนต่อบ้าง)
ด้วยความเคารพ... จาก ลุงทอม

-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป -

 

หากมีข้อสงสัย
ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการว่าจ้างผู้รับเหมา
และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้าน ปรึกษาได้ฟรีครับ
โดยคลิกที่ไอคอนข้างล่างนี้

ไปหน้า..สารบัญเรื่องจริงผ่านเน็ท
ประสบการณ์สร้างบ้านของเจ้าของบ้าน


ค้นข้อมูล ในซีเล็คคอน

14-2-2560-S

สงวนลิขสิทธิ์ © โดยทีมงาน selectcon.com