โดย หมอโจ
มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 59.2
อยากได้บ้านเย็น
ประหยัดพลังงาน ต้องวางแผน
“ มันแพงกว่าอย่างอื่นไม่ใช่เหรอ เห็นว่า
ตอนแรกไปจองฉนวนเขียวแล้วด้วยนี่ แล้วทำไมไม่เอา ”
หะ . . . แม่ผมรู้ได้ยังไงเนี่ย สงสัย
ลูกสะใภ้ตัวดี จะไปฟ้องแหงๆ
เมื่อแม่ผัวกับลูกสะใภ้จอยกันได้...ผม
ชักรู้สึกบรรยากาศมันน่ากลัวยังไงพิกล
เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว ตอนที่ยังพึ่งจะลงเสาเข็มได้ไม่กี่ต้น
ผมได้แอบหนีหมอผึ้งไปเดินงาน บ้านและสวนแฟร์คนเดียว แล้วก็เผลอไป
จองฉนวนเขียวโดยไม่บอกคุณเธอก่อน
ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เห็นน้องที่บูธเค้าน่ารักดี ก็เลยช่วยๆจองทำยอด
ให้น้องเค้า..พอหมอผึ้งรู้เข้า แกก็ไม่ว่าอะไร
แค่ลงไม้ลงมืออย่างเดียว. . . อูยยยย . . . ตะ . . . ตะ . . . ตั้งแต่นั้นมา จะซื้ออะไร
ละ. . . ละ . . . เลยต้องให้เมียเห็นชอบก่อนทุกครั้ง
ฉนวนเขียวที่ว่า ผมหมายถึง ฉนวนไฟเบอร์กลาสสีเขียวๆที่หุ้มด้วยฟอยล์ ยี่ห้อ
“อยู่เย็น” ที่วางขายกันทั่วไปนั่นแหละครับ จริงๆแล้วมันมีคุณสมบัติเป็นฉนวน
กันความร้อน..ที่คุ้มราคามากๆตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ที่มันคุ้มก็เพราะ เจ้าอยู่เย็นที่ว่านี้ มีวางขายถึง 3 ความหนา คือ 3,4.5 และ 6 นิ้ว
และราคาก็ไม่ได้แพงมาก ความหนาเนี่ยแหละครับ ทำให้มันกันความร้อนได้ดี
เพราะคุณสมบัติกันความร้อนของฉนวน เราจะดูที่ค่าการกันความร้อน (R) ซึ่งจะ
สัมพันธ์กับค่า K และความหนาของฉนวนครับ จากสูตร R = ความหนา /K
ค่า K คือ ค่าสัมประสิทธิ์การ นำความร้อน ยิ่งมีค่าน้อยๆ ยิ่ง กัน ความร้อนได้ดี
ตรงข้ามกับความหนา ยิ่งหนามากๆ ยิ่งกันความร้อนได้มาก ฉนวนไฟเบอร์
กลาสมีค่า K ที่ไม่ได้เหนือกว่าฉนวนอื่นมากนัก
เรียกว่าถ้าเทียบกันตัวต่อตัว ที่ความหนาเท่ากันแล้ว อาจจะเป็นรองฉนวน
บางตัวที่มีวางขายในบ้านเราอยู่ด้วยซ้ำ แต่อาศัยว่ามีความหนากว่าใครเพื่อน
ก็เลยกันความร้อนได้ดีและราคาไม่แพง
“ ดูตามสูตรแล้ว ถ้าอย่างนั้น
เอาอะไรมาทำเป็นฉนวนก็ได้สิ ”
“ ขอให้หนาๆไว้ก่อน ”
“ ก็ใช่สิพี่ หน้าที่ของฉนวนเป็นแค่ตัวหน่วงให้ความร้อนเข้าบ้านได้ช้าเท่า
นั้นเอง..พี่ก่อผนังเบิ้ลสองชั้น หนาขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นฉนวนแล้วนะ ยกเว้นว่าพี่
เอาวัสดุที่ค่า K สูงๆ อย่างเหล็กมาทำ อันนี้คงไม่ช่วย ”
สถาปนิกตอบผม
“ แต่ถ้าพี่ใช้วัสดุหนาๆมากๆ ก็เปลืองเปล่าๆ ยิ่งถ้าพื้นที่เหนือฝ้าไม่มากอย่าง
บ้านพี่..ใช้ฉนวนเขียวปูจะลำบากในการติดตั้ง แต่ที่ผมห่วงบ้านพี่ นอกจากเรื่อง
กันร้อนแล้ว ยังมีเรื่องกันเสียงอีกเรื่องหนึ่ง ”
ใช่แล้วครับ หลังคาเมทัลชีทบ้านผม
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวมากตอนนี้
ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกหนักๆ แทบจะคุยโทรศัพท์ไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว ส่วนหนึ่ง
น่าจะมาจากเสียงฝนที่กระทบโลหะ ผ่านลงมาสู่ห้องที่ยังไม่ได้ปูฝ้าโดยตรง
อีกส่วนหนึ่งน่าจะผ่านเข้ามา ทางผนังบ้านที่ยังไม่ปิดกระจก
นี่เป็น “ข้อด้อยของหลังคาเมทัลชีท”
ใครที่คิดจะใช้ต้องหาทางป้องกันด้วยนะครับ
การจะใช้ฉนวนเขียววางเหนือฝ้า แม้จะถูกกว่า แต่ดูจะไม่แก้ปัญหาเรื่องเสียงดัง
ให้บ้านผมได้ ครั้นจะปูฉนวนเหนือฝ้าร่วมกับพ่นโฟมกระดาษเก็บเสียง ก็ดูจะ
อลังการงานสร้างไปหน่อย ราคาก็ไม่ได้ถูกกว่าพ่นพียูโฟมอย่างเดียวเท่าไหร่นัก
ส่วนฉนวนพีอีโฟม หรือโพลี่เอททิลีน เป็นฉนวน...อีกแบบหนึ่งทำจาก
โพลี่เอทิลีนกับแผ่นสะท้อนความร้อน หนาประมาณ 10 มิลลิเมตร แค่ความ
หนา..ก็สู้ตัวอื่นไม่ได้แล้ว
ยึดติดกับเมทัลชีทโดยอาศัยกาว ส่วนใหญ่จะติดมาตั้งแต่โรงงานและก็มักจะ
มีปัญหาหลุดร่อนได้บ่อย ถ้ากาวไม่ดีพอ ส่วนเรื่องกันเสียง ก็ได้ระดับหนึ่งเพราะ
ความที่มัน...ไม่หนานัก
หน้าตาเจ้าฉนวนพีอีที่ว่าครับ
ความหนา..สู้ฉนวนเขียวไม่ติดเลย
ฉนวนอีกชนิดที่ตอนแรกผมเกือบจะเคลิ้มตามไปแล้ว ก็คือ
“ฉนวนเยื่อกระดาษหรือเซลลูโลส”
ตอนนั้นกระแสรักษ์โลกกำลังมาแรง ใครๆก็พยายามใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่งตรง
คอนเซ็ปต์ฉนวนแบบนี้พอดี จุดเด่นของมันคือเก็บเสียง ซับเสียง กันเสียง
สะท้อนได้ดีมาก เผลอๆจะเด่นกว่าคุณสมบัติกันความร้อนเสียอีก
ตัวโฟมที่เป็นเยื่อกระดาษ
เค้าจะผสมกาวเข้าไปเพื่อให้มันยึดเกาะได้
พอเอามาพ่นใต้เมทัลชีท ก็จะยึดเกาะ แต่ผมดูแล้ว ไม่แน่ใจว่ามันจะร่วงหล่น
ง่ายรึเปล่า..มารู้ทีหลังว่า มันเหมาะกับเอาไปทำฉนวนในห้องโฮมเธียเตอร์ซะมากกว่า
ผมกลับมาปรึกษาหมอผึ้ง ขอความเห็นชอบ คิดว่าใจเธอคงอยากได้ฉนวนเขียว
เพราะราคาถูกกว่า แต่ปรากฎว่า . . .
“ อย่าเอาฉนวนไฟเบอร์กลาสเลยพี่
ถ้าฟอยล์ฉีกขาดมา ละอองมัน
ฟุ้งกระจาย จะทำให้เกิด
Fiberglass Dermatitis ได้นะ ”
คุณเธอไม่พูดเปล่า เอาตำราแพทย์
มากาง..ให้ผมดูด้วย
ลักษณะผื่นคันที่หมอผึ้งพูดถึงครับ
เหมือนๆ ผื่นแพ้สารเคมีอื่นๆ
แต่พอเอาผื่นไปตรวจดูจะพบ
เจ้าไฟเบอร์กลาสเนี่ยแหละครับ
(ขอบคุณรูปจาก dermnet.comครับ)
“ ไหนจะทำให้เกิด
Pneumoconiosis* อีก
นี่ยังไม่นับว่ามันจะเป็น
Carcinogen** อีกรึเปล่า ”
แทรกคำแปลนิดนะครับ
*Pneumoconiosis คือโรคปอดที่เกิดจากการหายใจเอาฝุ่นละออง
สารอนินทรีย์..เข้าไปเป็นเวลานานๆ
ทำให้เกิดพยาธิสภาพที่ปอดเป็นพังผืด สารที่ทำให้เกิดโรคนี้ เช่น ฝุ่นถ่านหิน
กรณีที่..แม่เมาะ ฝุ่นหินจากโรงงานระเบิดโม่หิน ฝุ่นฝ้ายจากโรงงาน
อุตสาหกรรมสิ่งทอและฝุ่นอื่นๆ รวมถึงฝุ่นไฟเบอร์กลาสจากฉนวนหลังคาบ้าน
( ถ้าฟอยล์มันแตกนะครับ)
**Carcinogen คือสารก่อมะเร็งครับ
(ออกจะวิชาการหน่อยนะครับตอนนี้)
หลังจากหารือกันอยู่พักหนึ่ง ก็เป็นอันว่า ที่ประชุม (ซึ่งมีกันสองคน) ลงมติให้ใช้
ฉนวนพียูโฟมครับ หน้าที่ต่อไปของผมก็คือ สอบถามราคาและหาเจ้าที่พร้อมจะ
มาทำให้ ผมสอบถามราคาจากทั้งจากร้านในเน็ท ร้านริมถนน ร้านที่คนรู้จัก
แนะนำ รวมถึงตามโบรชัวร์ของโฮมโปร (แพงโคตรๆ ขอบอก)
นอกจากจะได้ราคาแล้วก็ยังได้ข้อมูลเรื่องฉนวนพียูมาพอสมควร ฉนวนพียู
โฟมชนิดพ่น หรือโพลี่ยูรีเทน มีค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อน (K) ที่ต่ำ
กว่าตัวอื่นๆที่มีขายในท้องตลาดเวลานี้ เป็นรองแค่สูญญากาศ (เค้าโม้มายังงี้)
เวลาพ่นไปแล้ว เนื้อโฟมจะเกาะกันแน่น โมเลกุลเรียงกันเป็น Closed Cells ไม่มี
รูโพรงอากาศ จึงช่วยดูดซับเสียงได้ด้วย ทนกรดทนด่าง ติดไฟได้แต่ไม่
ลามไฟ เป็นยังไง . . .
เดี๋ยวตอนหน้าจะเผาให้ดูจะๆ !
น้ำหนักเบา ไม่ยุบตัว เรื่องการยุบตัวก็สำคัญนะครับ จำได้มั้ยว่า ค่า R แปรผัน
ตรงกับความหนา ยิ่งหนามากยิ่งดี แต่วัสดุฉนวนบางตัว เวลาใช้ไปนานๆจะ
ยุบตัวลง ความหนาก็จะลดลง ส่งผลให้กันความร้อนได้ลดลงด้วย จริงๆมี
คุณสมบัติ..อีกมากบรรยายได้ไม่หมด
แต่เอาเป็นว่า ถ้าบ้านใครหลวมตัวมาใช้หลังคาเมทัลชีทแบบผมแล้ว ฉนวนพียู
โฟมพ่น เหมาะที่สุด แต่ถ้าเป็นหลังคาแบบอื่น ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละ
ท่าน..นะครับ
ที่เล่ามาตั้งแต่ต้นเนี่ย เป็นฉนวนกันความร้อนประเภท Mass insulation
คือหน่วงให้ความร้อนเข้าบ้านได้ช้าได้น้อยลง แต่ยังมีวัสดุกันความร้อน
อีกประเภทที่ใช้วิธีสะท้อนความร้อนออกไป (Reflective insulation )
คงพอนึกภาพออกนะครับ
บ้านผมก็ใช้ครับ แต่ยังไม่ได้ทำในตอนนี้ เอาไว้ทำเมื่อไหร่จะมาเล่าอีกทีครับ
ตอนหน้าจะพาไปดูการพ่นโฟมพียูบ้านผมกัน ถ้าอยากดูเร็วๆ ก็เร่งเฮียบอกอ
ให้รีบลงตอนต่อไปละกันนะครับ ช่วงนี้แกอู้งานจังเลย
ไม่รู้ไปหัวงูอยู่แถวไหนรึเปล่าเนี่ย !
แทงหลังกันเห็นๆ !
-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป-
ไปหน้าสารบัญ
ประสบการณ์การสร้างบ้าน
44 User Online