โดย หมอโจ
มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 3
ตามล่า...หาที่ดิน
คนนี้น้องสาว
(ของพี่ชายแฟนครับ)
พอคิดได้ว่าจะซื้อที่ดินเปล่าเพื่อเตรียมปลูกบ้าน..ตอนแรกผมก็หาซื้อหนังสือ
ขายบ้าน,ขายที่ดินมาเปิดดู ปรากฏว่าไม่เวิร์คครับ !!
นิตยสารพวกนี้..ในหนึ่งเล่ม จะมีที่ดินฝากขายน้อยมากที่มีขายมักจะเป็น
แปลงขนาดใหญ่เป็นไร่ๆ
ซึ่งใหญ่เกินไปและเกินงบด้วยครั้นพอขับรถตระเวนดู
ที่ดินในละแวกนี้ หาข้อมูลตามเน็ตกับป้ายเสาไฟฟ้า
ก็พบว่าไม่ได้สวยอย่างที่หวังไว้...บางที่ก็ลึกมากกก บางที่ไฟฟ้าก็ยังเข้าไม่ถึง
โอ้แม่เจ้าสาบานได้ว่าอยู่ในกรุงเทพ
พวกนี้เวลาสอบถามราคาจะพบว่า
ถูกอย่างเหลือเชื่อ
บางที่สวยมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและ ระบบหมู่บ้านที่ดี
แต่! โครงการของเราแบ่งขายเป็นไร่ พร้อมสมาชิกสปอร์ตคลับและสนามกอล์ฟ
โห...เจอแบบนี้ก็ขอลาครับ
วันเวลาผ่านไปจนความหวังจะได้ที่ดินราคาพอ (กู้เงิน) ซื้อได้ริบหรี่ลง คงต้อง
กลับไปหาบ้านจัดสรรตามเดิมแล้วมั้ง
มุมมองจากตึกชั้น 5
ที่ผมมองเป็นประจำ
แต่แล้วก็เหมือนโชคชะตาบันดาลดล
(สำนวนลิเก๊ลิเก) ของใกล้ตัวไม่รู้จักมอง
ตระเวนดูซะไกล..สุดท้ายก็มาได้ที่ดินตรงข้างรั้วที่ทำงานนี่เอง! จริงๆผมเคย
เห็นที่แปลงนี้มาเป็นปีแล้วครับ
เพราะก่อนจะย้ายมาทำงานที่นี่ ทุกเสาร์,อาทิตย์ ผมจะขับรถจากต่าง
จังหวัด..มาพักกับเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่นี่เป็นประจำอยู่แล้ว
ลูกศรชี้
คือห้องพักผมทุกวันนี้ครับ
และบนแฟลตที่พักก็ จะมองเห็นที่ดินแปลงนี้ได้แต่ที่ไม่ได้คิดถึงตั้งแต่แรก
เพราะคิดว่า...คงจะแพงน่าดู
แต่พอเข้าไปในหมู่บ้าน...ผมกับแฟนต่างเห็นพ้องต้องกัน (ซึ่งนานๆจะมีที)
ว่าที่นี่น่าอยู่ และ สงบมาก เข้าออกได้ทางเดียว มี รปภ. เดินตรวจตราตลอด
ที่ชอบมากก็คือ
มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นครึ้มทั่วหมู่บ้านมีบึง,มีสวนสาธารณะ,สนามเด็ก
เล่น..มีที่ให้ผมเตะบอลโกลรูหนู
"แค่นี้ผมก็โอเคแล้วครับ"
ถนนในหมู่บ้าน หน้าบึงสโมสร
ม้านั่งริมสระ สนามโกลหนู
มีสปอร์ตไลท์ด้วย
สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ
และสนามเทนนิส
อื่นๆ...เช่นสระว่ายน้ำ,สนามเทนนิส
คอร์ทแบด ก็มีแต่คงไม่ค่อยได้ใช้บริการเท่าไหร่
ส่วนข้อด้อยที่เพื่อนผม เข้ามาดูด้วยแล้วติงไว้ ก็คือมันเงียบสงบเกินไป
ไม่มีร้านค้าร้านอาหารจะหาอะไรกินก็ต้องออกไปข้างนอกหมู่บ้านเลย
อันนี้จะมองว่าด้อย หรืออะไรก็ได้ แต่ผมกับแฟน กลับมองว่าดีเสียอีกสงบดี
ไม่วุ่นวายและเลือกที่จะใช้วิถีชีวิตแบบนี้
ถนนหน้าแปลง
ตรงข้ามเป็นคลองเล็ก ๆ ครับ
ตอนแรกก็ดูอยู่หลายๆแปลง แต่แปลงที่เราสองคนเลือกก็คือ...แปลงที่ผมเห็นมา
ตลอดนั่นแหละครับ เพราะขนาดกำลังพอดี (ที่เราจะซื้อไหว)
แม้จะเป็นแปลงที่น่าจะ..เล็กที่สุดในหมู่บ้านก็เหอะ ด้านหน้าติดถนนเมนซึ่ง
กว้าง 9 เมตร อีกฝั่งของถนนเมนเขาขุดคลองเล็ก ๆ ช่วยระบายน้ำจากถนน
ด้านหลังเป็นโรงพยาบาลที่ทำงานผมครับ..โดยมีรั้วซีเมนต์บล็อกกั้น 2 ชั้น
รพ. กับหมู่บ้าน ต่างฝ่ายต่างก่อรั้วของตัวเอง
ถ้ามองไปด้านหลังจะเห็นหอพักแพทย์ กับ พยาบาลตั้งตระหง่านเป็น
แบล็คกราวด์ ส่วนด้านข้าง 2 ด้านยังเป็นแปลงที่ดินเปล่าครับ สืบมาแล้ว
ยังไม่มีทีท่าว่าจะปลูกบ้าน..ในเวลาอันใกล้นี้
หลังจากดีลกับเจ้าของที่อยู่พักนึง (เจ้าของที่เดิมน่ารักมาก)
พี่เค้าเห็นว่าผมติดต่อก่อนและอยากได้จริงๆ ก็เลยไม่ดีลกับคนอื่นที่พร้อมซื้อ
เงินสดอีก..เชื่อใจผมขนาดไม่ต้องมัดจำ,ไม่มีสัญญาจะซื้อจะขาย รอผม
หาเงินมาซื้อทีเดียวเลย ซึ่งก็อีกเกือบเดือน ขอบคุณมากๆครับ
ผมก็ยื่นเรื่องกู้ซื้อที่ดินกับแบงค์ครับ ช่วงนั้นแบงค์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยาก
ปล่อยกู้เพื่อ ซื้อที่ดินเปล่าหรอกครับ
(เดี๋ยวนี้ก็น่าจะเป็นอยู่)
แบงค์ที่ให้เค้าก็คิดดอกเบี้ยช่วงลอยตัวเป็น MLR+1 ซึ่งต่างจากการกู้ซื้อบ้าน
ที่ดอกจะถูกกว่า แถมดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อที่ดินก็เอาไปลดหย่อนภาษีไม่ได้ ผม
ถามอยู่หลายแบงค์...แต่สุดท้ายได้ที่บัวหลวงครับ
เพราะเป็นแบงค์ใหญ่
แบงค์เดียว..ที่ให้กู้ซื้อที่ดินเปล่าได้
ช่วงนั้นก็ลุ้นน่าดูครับ...เพราะผมเองก็ไม่เคยมี “ประสบการณ์” เกี่ยวกับการ
กู้เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แต่เร็วๆนี้คงได้กู้ก้อนใหญ่กว่านี้แน่ๆ ไม่รู้จะดีใจ
หรือเศร้าใจดี
ทำให้รู้ว่าเวลาเราจะกู้เงิน ซื้อบ้านซื้อที่เนี่ย...มีค่าธรรมเนียมนู่นนี่ยิบย่อย
ไปหมด ไหนจะค่าธรรมเนียมจัดการสินเชื่อ,ค่าประเมินหลักทรัพย์ของแบงค์
ไหนจะค่าจดจำนอง,ค่าธรรมเนียมการโอน,ค่าอากรของกรมที่ดิน
เรียกได้ว่ากว่าจะได้ที่ดินแปลงนี้ มาครอบครอง ก็เสียค่าจิปาถะเหล่านี้ไป
พอสมควร เฮ้อไม่รู้จะรีดเลือดกับปูไปถึงไหน..เอาเป็นว่าถ้าใครคิดจะสร้างบ้าน
แต่ยังหาที่ดินถูกใจไม่ได้ ก็พยายามต่อไปนะครับ ขออวยพรให้ได้ที่ดินที่ถูกใจในเร็ววัน
ส่วนใครที่มีที่ดินเป็นของตัวเองแล้ว
แม้จะมีเพียงสำเนาโฉนด ตัวจริงเก็บไว้ที่แบงค์แบบผม หรือบางคนมีโฉนดตัวจริง
อยู่ในมือแล้ว..พร้อมจะปลูกบ้านแล้วคราวหน้าเรามาคุยกันต่อ ถึงแหล่ง
ข้อมูลการสร้างบ้านครับ
อย่าลืมติดตามนะครับ!!
ถนนรามอินทรา...ยามเย็น
แถมท้ายครับ
เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีสาระ
ค่าใช้จ่ายที่แบงค์เรื่องที่ดิน
- ค่าประเมินหลักทรัพย์
(ก็คือที่ดินแปลงนั้นแหละครับ)
ธนาคารคิด 2500 บาท (บางแบงค์ถูกกว่า บางแบงค์ไม่คิด)
- ค่าธรรมเนียมจัดการสินเชื่อ ธนาคารคิด 1% ของวงเงินที่กู้ครับ
กู้น้อยก็เสียน้อยกู้มากก็จ่ายให้แบงค์ (หากินง่ายนะแบงค์เนี่ย)
- ค่าทำสัญญากู้เงินไม่รู้คิดยังไงโผล่มาลอย ๆ เลยครับ แต่ไม่กี่ร้อยบาท
ค่าใช้จ่ายที่สำนักงานที่ดิน
- ค่าธรรมเนียมการโอน คิดจาก 2% ของราคาประเมินที่ดิน
- ค่าจดจำนอง คิดจาก 1% ของวงเงินกู้
- ค่าอากร คิดจาก 0.5% ของราคาประเมินที่ดิน
- อื่น ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ค่าคำขอ,
ค่าพยาน,ค่ามอบอำนาจ ไม่กี่ตังค์ครับ
ทั้งหมดนี้เป็นค่าใช้จ่ายประมาณปีเศษ ที่ผ่านมานะครับอาจมีการเปลี่ยนแปลง
คงต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนอีกที ของผมโชคดีครับที่เจ้าของเดิมใจดี
ค่าอากร,ภาษีเงินได้ เค้าออกให้ ส่วนค่าธรรมเนียมการโอนออกคนละครึ่งครับ
ตามมารยาทก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเจอเจ้าของที่เขี้ยวๆ ไม่ยอมออก
ก็ลำบากหน่อย
แบงค์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากปล่อยกู้ซื้อที่ดินเปล่าครับ บางที่บอกไม่มีนโยบาย
บางที่ก็บอกว่ากลัวซื้อไปเก็งกำไร แหม่คิดไปได้...แต่ถ้ากู้ซื้อที่ดินพร้อม
ปลูกสร้างเลย ก็จะปล่อยง่ายกว่า
ส่วนราคาประเมินที่ดินหาได้จาก
กรมที่ดิน และ กรมธนารักษ์ ครับ
เข้าไปถามเป็นรายแปลงได้เลย ยิ่งถ้ารู้เลขที่ดิน, หน้าสำรวจ,เลขที่โฉนด
สาขาสำนักงานเขตนั้นๆได้ยิ่งชัวร์ครับ
-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป-
ไปหน้าสารบัญ
ประสบการณ์การสร้างบ้าน
32 User Online