เพื่อการสร้างบ้านคุณภาพ ที่ไม่เสียเปรียบใคร



โดย หมอโจ

มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 9
“คอนซัลแทนซ์”... ต้องมีกับเค้าด้วยเหรอ ?



จากตอนที่แล้ว...

ระหว่างที่ภาคนึงของผมก็ต้องง่วนอยู่กับการตามหา..สถาปนิกอยู่นั้นผมก็แบ่ง
อีกภาคหนึ่งไปเสาะแสวงหาคนที่จะมา สร้างบ้านผมครับ ห้ะ...ถ้าทำได้ยังงั้นก็ดีสิครับ



จะได้แบ่งหลาย ๆภาคไปหาน้องแพนเค้ก หาน้องอั้ม หรือน้องหยาดบ้าง
"แฟนทำหน้า บอก ไม่ไปหาเสี่ยอู๊ดล่ะ ..อึ๋ย..เจี๋ยว"แต่ในความเป็นจริง
เราคงไม่ว่างมากขนาดจะมีเวลาทำอะไรหลาย ๆอย่างได้พร้อม ๆ กัน


ไหนจะงานประจำ งานไม่ประจำ งานรัฐ งานราษฎร์ แล้วถ้าคิดจะสร้างบ้าน
ด้วยแล้ว เวลา 24 ชั่วโมงใน 1 วันทำท่าจะไม่พอเสียด้วยซ้ำ หลายคนก็คงคิดอย่างนี้


ก็เลยตัดใจจ้างบริษัทรับสร้างบ้านซะให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องมาเหนื่อย ! แต่เมื่อ
คิดจะหาสถาปนิกเองแล้ว แน่นอนเราก็ต้องตามหาคนที่จะมาสร้างบ้านให้เราเองด้วย


ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ...ผู้รับเหมา...คนนี้...นี่...เองงงง...อินโทรซะ อารมณ์ทีวีแชมป์เปี้ยนส์เชียว


เอ่ยถึงผู้รับเหมาเนี่ย..ผมว่าหาไม่ยากหรอกครับ ง่ายกว่าตามหาสถาปนิกและ
หาได้ตั้งแต่ตามกระดาษแปะริมเสาไฟฟ้า ตามป้ายโฆษณาริมถนน
หรือแม้กระทั่งวิ่งบนถนนก็ยังมี (สติ๊กเกอร์ติดหลังรถปิ๊กอัพ) เรื่อยไปจน
ตามหน้านิตยสาร ตามหน้าเว็บไซด์ก็มี






แต่เชื่อผมสิว่า..ไอ้ตอนที่เราไม่คิดจะตามหาผู้รับเหมาเนี่ย เราจะพบป้ายนี้ได้
ทั่วไปทุกตรอกซอกซอย แต่พอตั้งใจจะตามหาขึ้นมาจริงๆ กลับหาไม่ค่อยจะเจอ ไม่รู้เป็นไง



แต่ปัญหาจริงๆของการเฟ้นหาผู้รับเหมาน่าจะอยู่ที่ "คุณภาพ" มากกว่า
ทั้งนี้..เพราะคนทำอาชีพผู้รับเหมาในบ้านเรามีเยอะมาก และหลากหลาย



ก็ย่อมจะมีทั้งที่ดีไม่ดี..เก่งไม่เก่งคละเคล้ากันไป ขณะเดียวกันคนที่แฝงตัว
เข้ามาฉกฉวยโอกาสก็มี นั่นก็จะทำให้ผู้รับเหมาที่ดี ๆ ก็จะหายากขึ้นไปอีก
เผลอๆ อาจจะยากกว่าหาสถาปนิกเสียด้วยซ้ำไป !!



เพราะบ่อยครั้งที่ผมเข้าไปอ่านในเว็บบอร์ดอย่าง “ห้องชายคาในพันทิพย์”
และจะพบกระทู้ที่ตัดพ้อ ต่อว่า ด่าประจานผู้รับเหมาก่อสร้างต่างๆนาๆ
ถึงความไม่รับผิดชอบ การเอารัดเอาเปรียบ รวมไปถึงการทิ้งงาน โกงเงินเจ้าของบ้าน


จนทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า..อาชีพนี้มันจะมีคนดีบ้างมั้ยเนี่ย !



มีครับ คงจะมี ผมคิดในใจ ( แต่บังเอิญเขียนออกมา เพื่อนๆเลยรู้หมดเลย )
ไม่งั้น..บ้านนี้เมืองนี้ก็คงจะมีแต่ตึกรามบ้านช่องร้าง ๆ เต็มไปหมด






เพียงแต่เราจะตามหาเจอรึเปล่าเท่านั้นเอง...แล้วถ้าเจอแล้วเราจะดูยังไง
ว่าเค้าดีจริง ทั้งในเรื่องของฝีมือ และความรับผิดชอบ และถ้าเกิดเค้าสร้างบ้านให้เรา



แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าไม่เอาเปรียบเรา “สร้างบ้านได้ถูกต้องตามมาตรฐาน”
ไม่หมกเม็ดเรา หรือ ไม่ซ่อนปัญหาที่จะตามมาอีกมากมายให้ต้องคอยตามแก้ภายหลัง ?



ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อยใจ... ครั้นจะกลับไปหาบริษัทรับสร้างบ้านก็คงอิหรอบเดิม
เพราะเค้าก็จ้างผู้รับเหมาช่วงเหมือนกันอาจจะยิ่งเหนื่อยกว่าด้วยซ้ำ เพราะเรา
เลือก บ.รับสร้างบ้านก็จริง แต่เราไม่มีสิทธิเลือกผู้รับเหมาช่วง ขึ้นอยู่กับว่า
บ.จะให้ผู้รับเหมาย่อยรายใดมารับช่วงต่อ ซึ่งอาจไม่ใช่เจ้าที่ทำบ้านหลังตัวอย่างที่ไปดูก็ได้



อย่ากระนั้นเลย ถ้าคิดจะหาผู้รับเหมาเอง ตัวเราเองก็ต้องหากลไกป้องกันตัวเองไว้ก่อน !
นั่นก็คือ...ก็คือ...ก็คือ...ที่ปรึกษาการก่อสร้าง ..ถูก..ถูก..ถูกต้องนะคร้าบ 


ที่ปรึกษาการก่อสร้างหรือคอนซัลแทนซ์ เนี่ยอาจจะดูเป็นเรื่องใหม่ไม่คุ้นเคย
สำหรับคนทั่วไปที่“จะปลูกบ้าน” บางคนอาจจะแย้งว่า มีหรือ...ไม่มี ที่ปรึกษา
บ้านก็สร้างเสร็จได้ งั้นจะจ้างทำไมให้เปลืองเงิน ?



ตอนแรกผมก็คิดยังงั้นเหมือนกันครับ
ว่ามีหรือไม่มีคอนซัลแทนซ์ บ้านก็สามารถสร้างเสร็จได้ แต่จะเสร็จ
ในรูปแบบไหน เจ้าของบ้านจะต้องปวดหัวทุกขั้นทุกตอนรึเปล่า



นั่นอีกเรื่องหนึ่ง... ลองคิดเล่น ๆ ว่าระหว่างสร้างบ้าน ถ้าผู้รับเหมา
มาขอเบิกเงินล่วงหน้าทั้งที่งานยังไม่เสร็จ เราจะให้หรือไม่ให้
ถ้าไม่ให้เค้าจะทิ้งงานมั้ย ?


นั่น...เริ่มเครียดแล้วใช่มั้ยครับ

หรือหากสร้าง ๆไป เค้าหายไปเฉย ๆ เราโทรตาม เค้าปิดมือถือ
หรือบอกจะมา...แต่ไม่มาซักที

เราจะนอนหลับได้สนิทหรือไม่ ?

นี่ยังไม่นับว่า คุณภาพงานที่ช่างสร้าง
จะได้มาตรฐานหรือเปล่าอีก ถ้าค้านสายตาเรา
แล้วเรามีความรู้อะไรไปแย้งเค้า ?

ภาพแสดงทับหลัง ที่เสริมเหล็กไม่ได้ขนาดจึงพังลงมา


สังเกตตรงรอยที่ เหล็กชนกับเสาขวามือ เอาเหล็กแปะไว้เฉยๆ
โดยไม่ได้เสียบเข้าไปในเนื้อปูนแล้วใช้ อีพ๊อกซี่ อย่างนี้มันก็ไม่แข็งแรงสิท่าน


สังเกตุตรงทับหลังมาชนกับเสาเอ็นสิครับ



รูปไม้เชิงชายรูปบนกับล่าง สังเกตง่ายๆตรงไม้ที่ใช้
และโผล่ออกมา หากมากเกินไประยะยาวไม่ดีแน่นอน




รูปนี้เผิน ๆ ก็น่าโอเคไหม ?

จริง ๆแล้ว...ไม่ถูกตรงไม่ทำเสาเอ็นคั่นทุกระยะ 3 เมตร จากประสบการณ์
ที่เคยคุมงานมาครั้งนึง (จากตอนที่ 1) ผมบอกได้เลยว่า เราแย้งอะไรไป
ถ้าช่างเค้ายืนยัน หรือหาเหตุผลอะไรไม่รู้...ที่เราฟังไม่รู้เรื่องมาอ้าง
หรือตอบมั่ว ๆมา..เราก็ไม่รู้ และพร้อมจะเชื่อเค้าโดยดี

ไม่กล้าหือมาก เพราะกลัวว่าถ้าเรื่องมาก
เดี๋ยวผู้รับเหมาพาลทิ้งงานไปจะยิ่ง "ลำบากกว่าเดิมเข้าไปอีก"



ถามว่าเราจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นได้อย่างไร ? ห้ามตอบว่า
ก็ตั้งกระทู้ถามในห้องชายคาสิ ถามนะถามได้ แต่ถ้ามีปัญหาขึ้นมาจริง ๆ
คนที่ตอบกระทู้ให้เราน่ะ เค้ารับผิดชอบได้ไหม ? คงไม่แน่ ๆ



ทำได้ก็คงเพียงแค่แสดงความเห็นใจเท่านั้นเอง ผมจึงคิด(เอง) ว่าเราควร
จะมี"ผู้เชี่ยวชาญในการก่อสร้าง"ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้รับเหมามาช่วยดูแล
การสร้างบ้านให้ ตั้งแต่การช่วยสกรีนผู้รับเหมา ช่วยร่างสัญญาไม่ให้เราเสียเปรียบ



ผมใช้คำว่า..."ไม่ให้เราเสียเปรียบนะครับ ไม่ใช่ให้เราได้เปรียบ"


คอยเป็นกันชนระหว่างเรากับผู้รับเหมา มีคนคอยรักษาผลประโยชน์ให้เรา
ไม่ต้องมาคอยปวดหัวตลอดเวลา สงสัยอะไรก็ถามได้ตลอด และ
ได้คำตอบจากคนที่รู้จริงไม่มั่วตอบ



ตอนแรกผมคิดถึงพวกอาจารย์สอนช่างก่อสร้าง...ตามสถาบันต่าง ๆ ครับ
แต่พบว่าอาจารย์เหล่านี้..เค้าจะมาดูงานให้เราได้ก็เฉพาะนอกเวลางาน...ซึ่ง
เวลานั้นคนงานคงเก็บของกลับหมดแล้วล่ะ



ต่อมาผมได้เข้ามาหาความรู้ในการสร้างบ้าน...และหาผู้รับเหมา ใน
“Selectcon.com” จึงลองสมัครเป็นสมาชิก และลองภูมิทีมงานด้วยการ
ถามนู่นถามนี่อยู่นาน..ผมกลับไปนั่งนับคำถามที่ผมถามทีมงานมีอยู่
เกือบ 20 คำถาม ในช่วงเกือบ 3 เดือน แต่ละคำถามจะมีคำถามย่อย
อีก 3-5 คำถามย่อย..ตามประสาคนขี้สงสัยก่อนจะนัดหมายพูดคุยกันในเวลาต่อมา



เรานัดเจอกันครั้งแรก แถวร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันแถวถนนสุขาภิบาล 3 ครับ
( ทำยังกะนัดส่งยาบ้า ยังงั้นแหละ ) ผมไปคนเดียว พอดีแฟนไม่ว่าง แต่ไม่วาย
เหน็บว่า ให้ได้เรื่องกลับมานะไม่ใช่แอบนัดน้องหนูที่ไหน หลังจากรับทราบ
นโยบายจากท่านผบ.มาแล้ว ผมก็เดินทางมาถึงที่นัดหมาย เจอทีมงานครั้งแรก
ผิดจากที่คาดไว้ครับ !






ตอนแรกผมก็คิดว่า... คงจะเจอ
คนหนุ่มมาดดี ใส่สูทดำ ผูกไทด์ ถือกระเป๋าเจมส์บอนด์ สงสัยจะดูละคร
หลังข่าวเยอะไปหน่อย..ในละคร ที่ปรึกษาพวกนี้เอาแต่เท่ห์.. เดินไปเดินมา
ตามก้น...ประธานบริษัทอย่างเดียว



แต่ในเรื่องจริง คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าผม... ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเรา ๆ
ท่าน ๆ นี่แหละครับเพียงแต่พอคุย ๆกันไป เนื้อหาสาระที่พูดต่างหาก
ที่เป็นตัวบอก "ทัศนคติ" และ "ความเป็นที่ปรึกษาการสร้างบ้าน"
จากที่ได้พูดคุยกันหลายครั้ง ทำให้ผมแน่ใจอย่างหนึ่งว่า คนเรา
มีความถนัดและเชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน



เข้าทำนองว่า..เก่งใครเก่งมัน งานใครงานมัน ประมาณนั้นแหละครับ
ผมเป็นหมอจะให้ผมไปรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับการก่อสร้าง คงเป็นไปไม่ได้
ในทางกลับกันคอนซัลแทนซ์เรื่องบ้าน จะให้มารู้เรื่องรักษาคนไข้ ก็คงไม่ได้เช่นเดียวกัน




แน่นอน ของอย่างนี้ไม่มีใครมาเป็นที่ปรึกษาให้เราฟรี ๆแน่ เว้นแต่เพื่อน ๆ
จะมีคนรู้จัก "ที่ไว้ใจได้" และ "มีความรู้ในวงการก่อสร้าง" พอสมควร มาช่วยดู
ช่วยคุมงานให้ก็ไปอย่าง (อันนี้สุดยอดเลยครับ) แต่ถ้าไม่มีก็คงต้องจ้างล่ะครับ
หรือเพื่อน ๆ จะปล่อยให้ผู้รับเหมาเค้าสร้างเองคุมเอง ?



และถ้าจะจ้างคนมาเป็นที่ปรึกษา เราก็ต้องชั่งน้ำหนักว่า ราคาที่จ่ายเพิ่มไป
เราจะได้อะไรกลับมา คุ้มค่าหรือไม่ ! ลองย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าสีฟ้า
อีกสัก 3 รอบครับ ที่สำคัญ ที่ปรึกษาก็ต้องมีความรู้จริง มีจรรยาบรรณ และเชื่อถือได้



ซึ่งของอย่างนี้ ก็ต้องศึกษาซึ่งกันและกัน
พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติกันสักระยะ ก่อนตัดสินใจว่าจ้างครับ



คอนซัลแทนซ์เค้าก็ต้องเลือกลูกค้านะ อย่าคิดว่าเรา...จะเลือกเค้าฝ่ายเดียว



ทั้งหมดที่เล่ามานี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ บางคนคิดว่า
คอนซัลแทนซ์ไม่จำเป็น ดูแลงานได้เองหรือมีคนที่ไว้ใจได้มาคุมให้ ไม่ต้องมี
ก็ได้ครับ เก็บเงินไว้เป็นค่าตกแต่ง ค่าเฟอร์นิเจอร์ดีกว่า ก็ไม่ว่ากันครับ




-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป-

ไปหน้าสารบัญ
ประสบการณ์การสร้างบ้าน

    


44 User Online