โดย หมอโจ
มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 20
อินทีเรียดีไซเนอร์
จำเป็น..ด้วยเหรอ
หลังจากที่...ได้ลองใช้โปรแกรม “SketchUp” มาช่วยออกแบบตกแต่ง
ภายใน ผมก็ลองเอาโมเดลบ้านตัวเองไปให้คนอื่นๆดู
ประกอบกับที่ทำงานผมกำลังจะปรับปรุง ห้องพักแพทย์ส่วนกลาง
ผมก็เลยลองออกแบบเล่นๆ แล้วเอาไปพรีเซนต์...ในที่ประชุม
หลายคนอเมซซิ่งมาก ไม่เชื่อว่าผมจะทำเอง บางคนบอก “ เฮ้ยโจ เอ็งเจ๋งว่ะ”
ต่อด้วย “ มึงมาเรียนหมอทำไมวะ” หรือ “ออกแบบครัวบ้านพี่ให้หน่อยสิ”
เอากันเข้าไป
เอ่อ..อันหลังนี่ผมว่า พี่กลับไปคิดใหม่ดีกว่ามั้ยครับ
นี่ครับห้องพักที่แพทย์ลองทำดู
อันนี้โต๊ะประชุมครับ
แต่ถึงยังงั้น ผมเองก็ยังรู้สึกว่า... มันดูกิ๊กก๊อกยังไงบอกไม่ถูก ดูมันมือสมัครเล่น
ยังไงก็ไม่รู้...แฟนผมบอก แหม ก็เราไม่ใช่อินทีเรียมืออาชีพนี่
ถ้าพี่ทำได้ คนทั่วไปทำได้ แล้วเค้าจะร่ำเรียนมาทำไมล่ะ (ก็ถูก) ที่สำคัญ เค้า
“มีประสบการณ์และ ไอเดียมากกว่าเรา”
เหมือนเวลาเราทำกับข้าวน่ะพี่ ใครก็ทำกินเองได้... แต่พ่อครัวร้านอาหาร เค้า
ทำเป็นอาชีพ..อาหารมันก็ต้องอร่อยกว่า และหน้าตาดูดีกว่าเราทำกินกันเอง ถูกมั้ย ?
(พูดอีกก็ถูกอีก..แหม..นานๆแฟนผมจะพูดทำเอาผมเคลิ้มได้) แต่ เอ๊ะ! แฟนผม
ทำกับข้าว...ไม่เป็นนี่หน่า
จริงๆแล้ว..ผมเองก็ไม่คิดจะทำตกแต่งภายในเอง ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วครับ !
คิดว่าจะให้มัณฑนากรมาช่วยดูแล (ออกตัวก่อนนะ ว่าเป็นความเห็นส่วนตัว)
คิดไว้ตั้งแต่จะเริ่มออกแบบบ้านแล้วครับ แต่มีคนบอกว่า ไม่ต้องรีบก็ได้รอขึ้นเสา
ขึ้นโครงให้เห็นเป็นตัวบ้านก่อน ก็ยังทัน
บางคนก็บอกว่า บ้านเสร็จแล้วค่อยบิลด์ก็ยังได้ ผมก็เลยทุ่มเวลาไปกับเรื่อง
ตัวบ้านภายนอกเสียส่วนใหญ่แต่กระนั้น ก็ยังไม่วาย...แอบนอกใจ
(ใช้คำซะหวาดเสียวเชียว) ไปหาข้อมูลเรื่องการตกแต่งภายในตามเว็บ
ตามหนังสือ...นิตยสารอยู่เนืองๆ
เรื่องการออกแบบตกแต่งภายในเนี่ย "นานาจิตตัง" ครับ
บางคนก็คิดว่าไม่จำเป็น..เป็นอะไรที่ใครๆก็ทำเองได้ แถมประหยัดไม่เปลือง
ตังค์...ยิ่งเดี๋ยวนี้มีโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ดังๆบางแบรนด์ ออกแบบตกแต่งให้ฟรี
(แต่ต้องเป็นเฟอร์ของเค้านะ)
ขณะที่บางคนก็ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้..ก็เห็นว่า ควรจะมี
นักออกแบบ
ตกแต่งภายในมืออาชีพมาดูแล..อันนี้คงไม่มีใครถูกใครผิดหรอกครับ แล้วแต่
ความชอบส่วนตัว
ทั้งๆที่หาข้อมูลมาพร้อมๆกัน...แต่ดูเหมือนเรื่องทางสถาปัตย์จะไปไกลกว่า
เรื่องอินทีเรียอยู่หลายช่วงตัว จนกระทั่งพิมพ์เขียวบ้านเสร็จ
เริ่มเห็นมิติของบ้านบนกระดาษ ผมก็เลยกลับมาเน้นเรื่องอินทีเรียอีกครั้ง !
เผื่อว่าจะได้แนวคิดในการวางผังภายในซะตั้งแต่ตอนแก้..พิมพ์เขียวเสียเลย
อย่างที่บอกไว้ในตอนก่อนๆ ว่า แก้บนกระดาษ แก้ๆลบๆ กี่รอบก็ได้ แต่ถ้า
แก้บนไซต์งาน...บ้านมีแต่ช้ำอย่างเดียว
แล้วจะไปหาอินทีเรียได้ที่ไหน ?
ค่าจ้างเท่าไหร่ ? งบตกแต่งเท่าไหร่ ?
หลากหลายคำถามพรั่งพรูมาจากปากแฟนผมเป็นชุดๆ หลังจากที่ผมเอ่ยปาก
ว่าจะหาอินทีเรียดีไซเนอร์ มาช่วยออกแบบตกแต่งภายในให้
แหม...ทำยังกับจับได้ว่าผมแอบไปมีกิ๊กที่ไหน ถามซะยิบเชียว หึ หึ ถ้ามีจริง
ไม่ให้จับได้หร๊อก 555
จะหาอินทีเรียได้ที่ไหน อันนี้ไม่ยากครับ เพราะตอนหาสถาปนิก ผมก็จะได้ข้อมูล
แหล่งอินทีเรียมาส่วนหนึ่ง อินทีเรียเหล่านี้ จะมีหลักๆ อยู่ 2 ประเภท
คือ"ทำงานในบริษัทตกแต่งภายใน" กับ "เป็นฟรีแลนซ์ " หรือบางคนทำอยู่
บริษัทแต่ออกมารับจ๊อบเสริม เป็นไซด์ไลน์ก็มี
บางรายมีผลงานลงตามนิตยสาร บางรายก็มีเว็บไซต์ให้เราเข้าไปดูผลงานได้
หรือบางรายอาจจะได้รับการบอกต่อมาจากคนรู้จัก หรือเราไปเห็นบ้านคนอื่น
ที่แต่งแล้วโดนใจ ก็สอบถามเจ้าของบ้านเอาก็ได้ครับ
อ้อ! หนังสือที่ผมแนะนำไว้ในตอนที่ 6 ก็จะมีผลงานของอินทีเรียบางส่วนอยู่
แต่ควรจะดู..ผลงานของอินทีเรียแต่ละคนก่อนตัดสินใจ..นะครับ
เพราะแต่ละคนแต่ละรายก็มีแนวทาง มีสไตล์เป็นของตัวเอง ตอนแรกผมเองก็
ดูอยู่หลายๆเจ้า ทั้งที่เป็นบริษัท เป็นฟรีแลนซ์ แต่พอดูๆไป
ก็จะมีอยู่ไม่กี่เจ้าที่สไตล์ตรงกับใจเรา บางรายคุยด้วยแล้ว...ไม่ถูกใจก็มี หรือ
บางรายก็ไม่รับงานเล็กๆพื้นที่น้อยๆก็มีเหมือนกัน
ค่าจ้างเท่าไหร่ อันนี้มันขึ้นกับว่า...เรามีงบประมาณในการตกแต่งเท่าไหร่ด้วย
เพราะส่วนใหญ่ค่าออกแบบ ของอินทีเรียจะคิด 10% ของงบประมาณตกแต่ง
ถ้า 1 ล้าน ค่าออกแบบก็ 1 แสน
(แบ่งจ่ายตามงวดงาน)
ส่วน 10% นี่ แพงหรือถูก? อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนนะครับ เราไม่ว่ากัน
ส่วนตัวแล้ว...ผมไม่ได้มองที่ตัวเงินที่จะต้องจ่ายเพียงอย่างเดียว
"แต่จะมองด้วยว่า แล้วเราจะได้อะไรจากการจ่ายเงินเท่านี้ เพราะทุกบาท
ทุกสตางค์มาจากน้ำพักน้ำแรง "
ดังนั้น... ถ้าจะทำก็ต้องให้คุ้มค่า
หลังจากได้อธิบายและตอบคำถามที่แฟนผมซักแล้ว... ท่าทางเธอเอง
ก็เห็นด้วยว่าน่าจะมีมืออาชีพมาช่วยงานนี้ดีกว่า
(คงไม่ไว้ใจมือสมัครเล่นอย่างผม)
แต่ก็ยังไม่วาย...ดักคอ
“ ผึ้งขอเป็นคนช่วยเลือกอินทีเรียแล้วกัน..ถ้าสวยมาก หรือเป็นตุ๊ดเป็นเกย์
นี่ไม่เอานะ ”เหอะๆ ไม่ทราบว่า เพื่อนๆคนไหนมีแฟน...ขี้หึงแบบแฟนผม
บ้างมั้ยเนี่ย ! แม้แต่ตุ๊ด,เกย์ ยังไม่เว้นเลยนะ... ถ้าเพื่อนฝูงรู้ว่า ผมได้แฟน
แบบนี้..มันคงหัวเราะกันครื้นแหง ๆ
เอาละ ! ถึงตอนนี้ยังไงก็ยอมๆ ไปก่อนละกัน พ่อผมสอน...เสมอๆ ว่า
“เชื่อเมีย แล้วจะเจริญลูก”
หลังจากได้เห็นพ่อเป็นตัวอย่างแล้ว เอาเป็นว่า....ผมเชื่อพ่อละกัน....
ปล. รูปภาพที่เอามาลงในตอนนี้ ไม่ใช่บ้านผมนะ ผม Save จากหลายๆเว็บ
จนจำไม่ได้ว่า เอามาจากไหนบ้าง
ต้องขออภัยเจ้าของภาพมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป-
ไปหน้าสารบัญ
ประสบการณ์การสร้างบ้าน
57 User Online