คงเป็นสำนวนที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับเจ้าของบ้าน
ที่ต้องเผชิญกับปัญหาการว่าจ้าง
ผู้รับเหมา เพื่อการสร้างบ้าน

เปรียบเสมือน "พันธะ" ที่ผูกมัดเจ้าของบ้าน
ให้ต้องจ่ายเงินตามที่ระบุไว้
แม้ว่าคุณภาพงานสร้างบ้าน
จะ "ไม่ได้" ตามที่คาดหวังก็ตาม

เปิดช่องผู้รับเหมา
ฉวยโอกาส "ลดต้นทุน" ก่อสร้าง
ด้วยการใช้วัสดุ "ด้อย"คุณภาพ
วิธีการก่อสร้างที่ "ด้อย" คุณภาพ
หรือจ้างช่าง "ฝีมือไม่ดี" มาทำงาน

ทำให้งานออกมาไม่ได้มาตรฐาน
ที่ "แย่" ไปกว่านั้นคือ
เกิดข้อผิดพลาดและบกพร่อง

เจ้าของบ้านไม่มีความรู้เรื่องงานก่อสร้าง
ไม่สามารถแยกแยะได้ว่า
งานที่ได้รับนั้นมีคุณภาพหรือไม่ ?

รับงานที่ไม่ได้มาตรฐาน
งานที่มีปัญหาซ่อนเร้น
ซึ่งอาจส่งผลเสียในระยะยาว
ทั้งเรื่องความปลอดภัย
และค่าใช้จ่าย
ที่ต้องใช้การซ่อมแซมในอนาคต

การจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมา
"เกินกว่า" เนื้องานที่ทำได้
ก็เปรียบเสมือน
เชือก "มัดมือ"เจ้าของบ้าน
ให้ "มัดแน่นมากขึ้น"
เมื่อจ่ายเงินเกินเนื้องานมากเข้า
ก็เสียเปรียบผู้รับเหมามากขึ้น
จะติงานส่วนใดก็ทำได้ลำบาก
งานที่ทำได้ "ไม่ดี"
ผู้รับเหมาบอกว่า "ดีแล้ว"
จะทำอย่างไร

ที่ "เสียเปรียบ" ผู้รับเหมาไปแล้ว
จ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน (คอนเซ้าท์)
ตรวจสอบงานก่อสร้าง
ที่ปรึกษาฯ ทักผู้รับเหมาว่า
วิธีการที่กำลังทำอยู่ไม่ได้คุณภาพ
ขอให้เปลี่ยนวิธีการก่อสร้างใหม่
ผู้รับเหมาบอกว่า..

"พี่ครับ..ผมไม่ได้ตีราคาด้วยวิธีการแบบของพี่
ผมตีราคาด้วยวิธีการแบบของผม"

เจ้าของบ้านทราบเรื่อง
บอกที่ปรึกษาฯ ด้วยความไม่สบายใจ..
ว่า.."อย่าไปว่าเขาแรงนะ เดี๋ยวเขาจะทิ้งงาน"

ซึ่งสถานการณ์ขณะนั้น
บ้าน 300 ตร.ม.
เจ้าของบ้านจ่ายเงินเกินกว่าเนื้องาน
ไปประมาณ 700,000 บาท

ที่เจ้าของบ้านท่านนี้ "ทำได้"
ก็คือ "ทำใจ"

ด้วยวิธีการแบบนี้ครับ

1. ระบุเนื้องานให้ชัดเจน
   อย่างหวังพึ่งแบบก่อสร้าง เพราะเขาบอกไว้ไม่ครบ
2. ฟิกซ์วัสดุก่อสร้าง ระบุยี่ห้อ รุ่น ให้ชัดเจน
3. ฟิกซ์วิธีการก่อสร้าง
   อย่าเปิดช่องให้ผู้รับเลือกวิธีการก่อสร้างเอง
4. ตกลงเรื่องฝีมือช่าง
   โดยใช้ภาพถ่ายงานสร้างบ้านคุณภาพประกอบสัญญา
5. สัญญามีบทลงโทษ หรือลดค่าจ้างผู้รับเหมา
   ในกรณีที่ผลงานก่อสร้างไม่ได้ตามข้อตกลง
6. หรือ
   ง่ายๆ แค่ใช้บริการกับซีเล็คคอน
   
   รายละเอียดบริการ