ตลาดซื้อขายบริการรับสร้างบ้าน เพื่อการ..ว่าจ้างสร้างบ้าน..แบบ วิน วิน

ว่าจ้างผู้รับเหมา..เพื่อการสร้างบ้าน
แบบ.."win win"

บ.ก. ซีเล็คคอน

4

เมื่อตามดูว่า..

การว่าจ้างทั้ง 3 แบบ ที่กล่าวมาแล้วนั้น ใครได้เปรียบเสียเปรียบ มากกว่ากัน 
ข้างล่างนี้ มีคำอธิบายครับ

การว่าจ้างแบบที่ 1
สร้างบ้านต้องจ่ายเงิน มัดจำสัญญา 10 %
แบ่งงวดงานตามที่ท้องตลาดหรือบริษัทรับสร้างบ้านเขาทำกัน

ในช่วงต้นๆ 
ลูกค้าสร้างบ้าน "กลัวผู้รับเหมา" เพราะจ่ายเงินไปก่อนแล้ว 10 %
การแบ่งงวดงาน แบ่งช่วงแรกๆผู้รับเหมาได้เงินมากกว่าเนื้องานที่ทำให้

แต่ในงวดสุดท้าย
ผู้รับเหมา "กลัวลูกค้าสร้างบ้าน"
งวดสุดท้ายนี่แหละครับที่เป็นงวดปราบเซียนของผู้รับเหมา 5%

สุดท้ายเก็บได้หรือไม่ ขึ้นอยู่ที่คุณภาพงาน
และ ความพึงพอใจของลูกค้าสร้างบ้านเป็นสำคัญ

การวัดเรื่องเจ้าคุณภาพงานนี่แหละครับ ในงวดสุดท้ายนี่ใช้ความรู้สึกของลูกค้าสร้างบ้านมาวัดกันเพียวๆ
เจอลูกค้าสร้างบ้าน ที่มีเหตุผลก็ดีไป
หากเจอลูกค้าสร้างบ้าน ที่ไร้เหตุผล ล่ะจะทำอย่างไร

ภาพบนเหล็กฐานราก
ภาพนี้ผู้ชมเว็บไซต์ส่งมาให้ดู แจ้งว่าจ้างบริษัทฯสร้างบ้านแบบเทิร์นคีย์ เขาทำแบบก่อสร้างให้ด้วยเหล็กฐานรากจึงออกมาอย่างนี้

 

เหล็กฐานรากเภาพล่าง บ้านหลังนี้จ้างสถานิกออกแบบให้


การว่าจ้างแบบที่ 2
ลูกค้าสร้างบ้านจ่ายเงินทำสัญญา ผู้รับเหมาออกแบงก์การันตีค้ำประกันสัญญา

การว่าจ้างแบบที่ 2 นี้ ตอนทำสัญญา ลูกค้าสร้างบ้านจ่าย 10 %
ผู้รับเหมาทำแบงก์การันตี ให้กับลูกค้าสร้างบ้าน 10%

ในช่วงต้นๆ 
วิธีการนี้ ตอนเริ่มต้นทำงาน... ลูกค้าสร้างบ้านไม่ต้องกังวลใจเท่ากับวิธีที่ 1 
เพราะวิธีการนี้ ลูกค้าสร้างบ้านถือแบงก์การันตีของผู้รับเหมาไว้ 10 % เช่นกัน
แต่ต้องดูงวดระหว่าง งวดแรกกับงวดสุดท้ายด้วยนะครับ ว่าแบ่งกันอย่างไร

ทีนี้พองานมาถึงงวดสุดท้ายปั๊บ
ผู้รับเหมาต้องเรียกเก็บงวดสุดท้าย 5 % +แบงก์การันตีที่ผู้รับเหมาวางไว้
กับลูกค้าสร้างบ้านอีก 10 %
รวมเป็น 15 %

ในงวดสุดท้าย
หากงานราบรื่น ก็ไม่มีปัญหาอะไร มีความสุขกันถ้วนหน้า
แต่หากไม่ราบรื่นล่ะครับ...
เช่นลูกค้าสร้างบ้านไม่พอใจแบบไม่มีเหตุผล (ถ้ามีเหตุผลก็ต้องรับได้)
และเกิดไม่ยอมจ่ายอะไรเลย

ตรงนี้แหละครับ ที่ผู้รับเหมาจะต้องรับศึกหนัก 15%
นี่หมายถึงกินเข้ามาในทุนของผู้รับเหมาด้วยเลยนะครับ

หากไม่กำหนดวิธีการก่อสร้างให้ผู้รับเหมาทำ ผู้รับเหมาอาจไม่ทำแบบนี้ให้

 

หากไม่กำหนดวิธีการก่อสร้างให้ผู้รับเหมาทำ ผู้รับเหมาอาจไม่ทำแบบนี้ให้

การว่าจ้างแบบที่ 3 
เป็นการว่าจ้างตามแนวคิดของ"ซีเล็คคอน"
การว่าจ้างแบบนี้ตอนทำสัญญาลูกค้าสร้างบ้าน "ไม่ต้องจ่ายเงินงวดทำสัญญา"

แต่ลูกค้าสร้างบ้านต้องวางหลักประกันเป็น "แคชเชียร์เช็ค" มูลค่า  5 %
โดยนำแคชเชียร์เช็คดังกล่าวมาวางไว้กับคนกลาง คือ "ซีเล็คคอน"

ในช่วงต้นๆ 
ผู้รับเหมาต้อง "ลงทุน" ทำงานไปก่อน  เมื่อทำงานครบงวดแล้วจึงจะเบิกเงินได้ 
ส่วนแคชเชียร์เช็ค 5 % นั้นก็คือหลักประกันของผู้รับเหมา
เพราะหากว่ามีอะไรเกิดขึ้น ผู้รับเหมาก็ยังมีวงเงินส่วนนี้รองรับ

ซึ่งหลักเกณฑ์ในการแบ่งงวดงานนั้น
ทางซีเล็คคอน แบ่งงวดงานแต่ละงวด ประมาณ 5% เช่นกัน

ในงวดสุดท้าย
ในกรณีที่ทุกอย่าง "ราบรื่น" ก็ "ไม่มีปัญหา" อะไร

แต่ในกรณีที่ผู้รับเหมา "มีปัญหา" หรือทำงาน "ไม่ดี" จริงๆ
ลูกค้าสร้างบ้าน..ก็ต้องให้ผู้รับเหมาทำงานให้เรียบร้อยก่อน
จึงจะแจ้งให้ "ซีเล็คคอน" นำแคชเชียร์เช็คจ่ายให้กับผู้รับเหมา

แต่หากว่าลูกค้าสร้างบ้าน.."มีปัญหา" และ "ไม่มีเหตุผล"
ทั้งที่ได้งานก่อสร้างตามข้อตกลง
เมื่อ "ซีเล็คคอน" เข้าไปตรวจสอบงานที่ไซต์งานแล้ว
ได้งานตามข้อตกลงจริง
"ซีเล็คคอน" จะส่งมอบแคชเชียร์เช็คให้กับผู้รับเหมา
โดยก่อนจ่าย..
ซีเล็คคอนจะแจ้งให้ลูกค้าสร้างบ้านทราบเสียก่อน

หากลูกค้าสร้างบ้านไม่เห็นด้วย
ลูกค้าสร้างบ้านสามารถแจ้งให้ "ซีเล็คคอน" ตั้งกรรมการจากบุคคลภายนอก 3 ท่าน มาทำการตัดสินก็ได้

บ้านหลังนี้ ว่าจ้างผู้รับเหมาตามแนวคิดของ "ซีเล็คคอน"

-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป-

หากมีข้อสงสัย
ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการว่าจ้างผู้รับเหมา
และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้าน ปรึกษาได้ฟรีครับ
โดยคลิกที่ไอคอนข้างล่างนี้

กลับไปหน้าสารบัญ
เรื่องน่ารู้เมื่อเตรียมการสร้างบ้าน



ค้นข้อมูล ในซีเล็คคอน

14-2-2560-S

สงวนลิขสิทธิ์ © โดยทีมงาน selectcon.com