ตลาดซื้อขายบริการรับสร้างบ้าน เพื่อการ..ว่าจ้างสร้างบ้าน..แบบ วิน วิน

สร้างบ้าน..
ไม่ต้องการให้ผู้รับเหมาเอาเปรียบ
8

ลุงทอม

กุญแจดอกที่ 3 : การนำข้อตกลง มาบังคับใช้ด้วยคุณธรรม

กุญแจสองดอกแรก เป็นเรื่องของการเจรจาต๊าอ้วย ช่วงก่อนลงมือก่อสร้างบ้าน 
แต่ กุญแจดอกที่ 3 นี่สิครับ เป็นเรื่องของการทำร่วมกันในช่วงลงมือสร้างบ้าน

อย่าลืมนะครับ ถ้ากุญแจสองดอกแรก คุณทำไว้ดี กุญแจดอกที่สามก็จะทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะการทำงานในช่วงนี้ จะเป็นการนำเอาข้อตกลงร่วมกัน มาบังคับใช้

หากท่านเสียเปรียบตั้งแต่ช่วงแรก บอกได้เลยครับว่าท่านจะสร้างบ้าน ด้วยความเป็นทุกข์ 

 

มีเรื่องเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่งครับ มีเจ้าของบ้านรายหนึ่ง ว่าจ้างผู้รับจ้างสร้างบ้าน
ในราคา 8 ล้านบาท ทั้งๆราคาบ้านที่ควรจะเป็น
(ผมใช้คำว่าราคาที่ควรจะเป็น เพราะว่าไม่ได้เป็นผู้ถอดบีโอคิวครับ)
คือ 9.0-9.5 ล้านบาท 

เจ้าของบ้านรายนี้ เซ็นต์สัญญากับผู้รับจ้างสร้างบ้านก่อนที่จะมารู้จักกับผม

หลังจากรู้จักกันแล้ว ในขณะนั้นงานมาถึงงวดงานที่ 2 คือกำลังทำงานในงวด เทฐานราก คานคอดิน

ผมเตือนว่า การแบ่งงวดงานที่เห็นนี้เป็นอันตรายมากครับ
ลองมาดูนะครับว่าเขาแบ่งงวดงานกันอย่างไร

 

การชำระเงิน 
งวดเซ็นสัญญา 5% ทำสัญญา 
งวดที่ 1 15% เมื่อเข้าดำเนินการตรวจพื้นที่ วางผัง ตอกเข็มแล้วเสร็จ 
งวดที่ 2 15% เมื่อทำฐานราก คานคอดิน เสาชั้นล่าง แล้วเสร็จ
งวดที่ 3 15% เมื่อทำคานชั้น 2 วางแผ่นพื้นเทคอนกรีตชั้น 2 เสาชั้น 2 เสร็จ
งวดที่ 4 15% วางแผ่นพื้นสำเร็จรูปเทคอนกรีตชั้นล่างก่ออิฐ 50%  ตั้งวงกบบางส่วน 
งวดที่ 5 10% โครงหลังคา เดินท่อไฟฟ้าและประปาบางส่วน 
งวดที่ 6 10% ติดตั้งวงกบไม้เสร็จ ฉาบปูนภายใน ครงฝ้าเพดานภายในแล้วเสร็จมุงหลังคา(เฉพาะบางส่วนที่ไม่ติดขัดต่องานปูน) 
งวดที่ 7 10% ฉาบปูนภายนอกเตรียมพื้นผิว เดินสายไฟ ฝ้าภายนอก ฝ้าภายใน
งวดที่ 8 5% เมื่อติดตั้งสุขภัณฑ์ ติดตั้งประตู งานสี วัสดุพื้นผิว ส่งมอบอาคาร

แต่เนื่องจากว่า..สัญญาได้ถูกเซ็นต์ไปแล้ว คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องว่ากันไปตามครรลอง 

เชื่อไหมครับ..ขณะนี้ระยะเวลาผ่านไป 253 วันแล้ว (ตามสัญญาระบุไว้ว่า จะใช้เวลา 270 วัน) 
งานก่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว งานฉาบๆไปประมาณ 20 % แถมงานก็ออกมาไม่ค่อยดีอีกด้วย 
หลังคาก็ยังไม่ได้มุง งานฉาบปูนก็ต้องตากแดดตากฝน

สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้ก็คือ..ค่อยๆประคับประคองสถานการณ์ไปจนกว่าบ้านจะเสร็จ 
จะติงานอะไรก็พูดแรงๆไม่ได้ เพราะกลังถูกทิ้งงาน (ขณะนี้งานมาถึงงวดที่ 6 แล้ว)

โฟร์แมนก็ไม่ได้เข้ามาควบคุมงานอย่างใกล้ชิด 

เชื่อไหมครับ..ว่าช่างใช้มีดอีโต้ตัดคอนกรีตมวลเบา เพราะไม่มีเลื่อยมาเลื่อยคอนกรีตมวลเบา 
สถานการณ์เจ้าของบ้านเป็นรองมากๆ เพราะหากผู้รับจ้างรายนี้ทิ้งงานไป
เจ้าของบ้านจะต้องหาเงินมาเติมอีก ไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านบาท

ที่ยกตัวอย่างมาให้อ่านกันนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีใคร
เพราะบทความนี้ไม่ได้ระบุว่าผู้รับจ้างเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน หรือ ผู้รับเหมา

แต่ใช้คำกลางๆว่า ผู้รับจ้างสร้างบ้าน ซึ่งผมเองก็ไม่อยากให้ท่านมองประเด็นว่าผู้รับจ้างเป็นใคร

แต่อยากให้มองเนื้อหาในประเด็นที่ว่า หากการต่อรองของท่านเสียเปรียบตั้งแต่การทำสัญญา
ท่านเสียเปรียบจนกระทั่งบ้านจบนั่นแหละ 

ทราบไหมครับว่าเงินส่วนที่เหลือในงวดสุดท้าย 5 % หรือ ประมาณ 400,000 บาท น่ะ
เจ้าของบ้านต้องการเป็นผู้ซื้อ ไม้ปูพื้น กระเบื้อง และสุขภัณฑ์เอง

ซึ่งเงิน 400,000 บาทน่ะไม่พอหรอกครับ จะขอคืนก่อนในงวดที่ 5 หรือ งวดที่ 6 ผู้รับจ้างสร้างบ้านรายนั้นไม่ยอม 

ผลสรุปงวดสุดท้ายหากทำบ้านจบ ผู้รับจ้างสร้างบ้านนอกจากจะไม่ได้รับเงินแล้ว
ยังจะต้องคืนเงินให้กับเจ้าของบ้านอีกด้วย

อย่างนี้คุณว่าเจ้าของบ้านจะได้บ้านที่ดีไหม ผู้รับจ้างจะมีกำลังใจที่จะทำบ้านให้ไหม งานจะเสร็จอย่างรวดเร็วไหม (เพราะรู้ว่างวดสุดท้ายนอกจากไม่ได้เงินแล้ว ยังต้องคืนเงินให้เจ้าของบ้านอีก)

กลับมาเข้าประเด็นครับ หากว่าการต่อรองของคุณเป็นไปตามหลักการ
ในกุญแจดอกที่ 1 และ ดอกที่ 2 แล้ว คุณไม่ต้องกังวลใจกับปัญหาข้างต้นเลย 
เพราะผู้รับจ้าง จะเป็นผู้ลงทุนทำงานก่อนในแต่ละงวด

หากงานไม่ได้คุณภาพจริง คุณสามารถปฏิเสธการจ่าย
จนกว่าผู้รับจ้างจะแก้ไขงานในงวดนั้นจนกว่าจะพอใจ หรืออีกนัยหนึ่งผู้รับจ้างเองก็จะต้องระมัดระวังตัวเอง
เพราะกลัวว่าจะเจอแบบนี้ ดังนั้นงานที่ออกมาจะได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ

เนื่องจากคุณมีข้อตกลงเรื่องค่าปรับหากไม่เป็นไปตามข้อตกลง 
เช่นหากพบว่า หลังจากที่ผู้รับจ้างแกะแบบที่ใช้หล่อคอนกรีตแล้ว
รีบซ่อมรอยที่เป็นโพรงด้วยเจตนาทุจริต โดยที่เจ้าของบ้าน หรือ ตัวแทนไม่ได้มาทำการตรวจสอบก่อน 
คุณสามารถ ปรับผู้รับจ้างโดยหักจากเงินงวดที่ท่านจะจ่ายได้เลย ดีกว่ามาบ่นปากเปียกปากแฉะ

ไม่ต้องมานั่งเถียงกับผู้รับจ้าง ในเรื่องคุณภาพวัสดุ เพราะทุกอย่างตกลงกันไว้ชัดเจนแล้ว ผู้รับจ้างก็ไม่กล้าตุกติก

ผมต้องบอกว่าการนำข้อบังคับมาใช้ ให้คุณคำนึงถึงเรื่องคุณธรรมด้วย
เพราะในการทำงานนั้นบางทีอาจจะมีข้อจำกัดบางประการ เช่นเรื่องคุณภาพวัสดุ

โดยเฉพาะเรื่องงานไม้ เช่น บานประตูไม้สัก พื้นไม้ ไม้สำหรับทำบันได
ถึงแม้จะระบุไว้ว่าเป็นเกรด A ก็ใช่ว่าท่านจะได้ไม้ที่ไม่มีตำหนิเลยสักนิด เพราะไม้เป็นของธรรมชาติ 
แต่ก็ใช่ว่าผู้รับจ้างจะเอาวัสดุโหลยโท่ยมาให้แล้วอ้างว่าเป็นเกรด A หรือ งานที่ช่างต้องใช้มือทำ

แต่ท่านจะเอาให้เนี้ยบเหมือนอย่างที่ผลิตโดยเครื่องจักร ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ หรือ
บางครั้งงานผิดพลาดไปบ้างโดยที่ผู้รับจ้างไม่ได้เจตนา ท่านจะถือโอกาสปรับผู้รับจ้างเสียเลย ก็หาควรไม่

การจัดการเรื่องนี้ มันต้องใช้ศิลปะพอสมควร และข้อสำคัญก็คือ
หากคุณไม่มีเวลาไปดูงานสร้างบ้านของคุณ คุณควรหาคนที่ไว้ใจได้ ไปตรวจสอบให้พร้อมกับทำรายงานมาให้คุณ อย่าปล่อยให้ผู้รับจ้างทำงานโดยไม่มีการตรวจสอบที่เหมาะสมครับ 

เพราะต่อให้กุญแจดอกที่ 1 และ 2 คุณวิเศษอย่างไร มันก็ช่วยไม่ได้หรอกครับ
อย่าเสียดายค่าจ้างคนที่จะมาตรวจสอบงานให้ตรงนี้เลย เพราะที่ผู้รับจ้างที่ตุกติกเพราะรู้ว่าคุณไม่มีคนดูแลมันมากเสียกว่าเงินค่าจ้างที่คุณจะจ้างคนมาตรวจงานให้อีก

หากท่านผู้ชมเว็บไซท์ของกระผม มีข้อสงสัยประการใด ใช้บริการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ ฟรีนะครับ

ย้ำอีกครั้งครับ บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ร้ายป้ายสีใคร
ต้องเข้าใจว่าในสังคมหนึ่งๆย่อมมีทั้งคนดี และคนไม่ดี ท่านต้องพิจารณาเอาเองครับ

แต่ผมก็หวังว่าบทความนี้ น่าจะช่วยสร้างสรรค์วงการสร้างบ้าน โดยทั้งเจ้าของบ้าน
และ ผู้รับจ้างทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่มีใครเอาเปรียบใคร นะครับ

ด้วยความคารวะ ลุงทอม

- จบบทความ -

หากมีข้อสงสัย
ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการว่าจ้างผู้รับเหมา
และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้าน ปรึกษาได้ฟรีครับ
โดยคลิกที่ไอคอนข้างล่างนี้

กลับไปหน้าสารบัญ
เรื่องน่ารู้เมื่อเตรียมการสร้างบ้าน

 

ค้นข้อมูล ในซีเล็คคอน

14-2-2560-S

สงวนลิขสิทธิ์ © โดยทีมงาน selectcon.com