โดย หมอโจ

มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 58.5
คุมงานทำฝ้า
ภารกิจ..ที่ต้องแหงนคอ

ไม่กี่วันโครงฝ้าชั้นบนชั้นล่างก็เสร็จ
ทันเวลาที่งานพ่นฉนวนกันความร้อนจะเข้าพอดี

( เรื่อง..ฉนวนกันความร้อน
จะขอแยกไปเล่าคราวหน้านะครับ)

งานพ่นฉนวนแล้วเสร็จ ก็ถึงเวลาปิดฝ้าซะที บ้านผมใช้โครงซีไลน์ และแผ่นฝ้า
ยิปซัม ทั้งแบบธรรมดาและแบบกันชื้นของตราช้างครับ จริงๆคงมียี่ห้ออื่นที่ถูก
กว่านี้อีก..แต่ผมรู้จักแต่ยี่ห้อนี้ยี่ห้อเดียว

ยิปซัมแบบกันชื้น จะห่อด้วยกระดาษออกเขียวอ่อนๆ ใช้สำหรับห้องน้ำ
ชายคานอกบ้าน ที่ไม่โดนละอองฝนมาก

แผ่นฝ้ายิปซัมทั่วไปขนาดประมาณ
9 มม. (ความหนานะครับ ไม่ใช่ลูกปืน)
กว้างคูณยาว 120x240 มม.

บ้านผมใช้แบบขอบลาด ถามช่างว่ามีไว้ทำไม ช่างบอกว่าเวลาฉาบปูนปิดรอย
ต่อระหว่างแผ่น..ที่มันลาดมาชนกัน จะทำให้ขอบมาเสมอกันพอดี

“ ปิดฝ้าหมดอย่างนี้ แล้วหลอดฟง
หลอดไฟ ดาวน์ไลท์ล่ะ จะทำยังไง ”
หมอผึ้งเอ่ยขึ้นมา

“ เป็นคำถามที่ดีมากครับ ”

“ ไม่ต้องเว่อร์ ตอบมาเลย อย่าลีลา ”

“ เอ่อ . . . เค้าทิ้งสายไว้เหนือฝ้าแล้วล่ะ ถึงเวลาเค้าก็จะเจาะฝ้าให้พอดี
กับดาวไลท์..แล้วล้วงไปเอาสายจ๊ะ ”

บริเวณเหนือฝ้า จะต้องเหลือพื้นที่ให้พอสำหรับอะไรก็ตามที่อยู่ภายในนะครับ
อย่างดาวน์ไลท์ทั่วไป จะต้องการสเปซ สำหรับตัวมัน ประมาณ 10-20 Cm.
แล้วแต่รุ่น

ถ้าบ้านใครปูฉนวนด้วย..หรือมีแอร์ฝังฝ้าด้วย ต้องเผื่อพื้นที่ด้านบนให้พอ
ไม่ใช่ตะบี้ตะบันอยากได้ฝ้าสูงไว้ก่อน ลืมนึกถึงสิ่งที่อยู่เหนือฝ้า ฝ้าบ้านผม
ไม่ค่อยสูงมากนัก ใจจริงอยากได้สูงกว่านี้ แต่มีคนเตือนว่า
สูงมากไป..เปลืองแอร์เปล่าๆ

แต่ก็มีบางฝ้าที่อยากให้สูงๆ โดยมีสเปซเหนือฝ้าไม่ถึง 10 เซน อันนั้นก็ต้องหา
ดาวน์ไลท์ชนิดบางพิเศษเอา ซึ่งอะไรที่มันพิเศษเนี่ย ราคาไม่ค่อยถูกหรอกครับ

พูดถึงเรื่องฝ้าแล้ว...อีกเรื่องที่ลืมไม่ได้!
ในยุคโลกร้อนทุกวันนี้ ก็คือฉนวนกันความร้อนครับ สำคัญมาก แทบจะเป็น
คอนเซปหลักของบ้านผมเลยทีเดียว

แต่ขอติดไว้ตอนหน้านะครับ
เรื่องมันยาวววววว.......

-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป-

ไปหน้าสารบัญ
ประสบการณ์การสร้างบ้าน