โดย หมอโจ

มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 47.3
เมทัลชีทของผม
สังกะสี (ดีๆนี่เอง) ของแม่ (ต่อ)

เมทัลชีทก็คือหลังคาเหล็กที่เคลือบสังกะสีและอลูมิเนียม (Zincalume®)
เพื่อให้มันมีความทนทาน ไม่เป็นสนิม สามารถรีดเป็นแผ่นยาวตามขนาด
ที่ต้องการได้..ดัดให้โค้งก็ได้

น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับหลังคากระเบื้อง หรือคอนกรีต ทำให้ไม่ต้องใช้โครงสร้าง
เหล็ก..เพื่อรองรับมากโดยทั่วไป หลังคากระเบื้อง คอนกรีต โมเนีย หรืออะไรก็
แล้วแต่ที่เป็นแผ่นๆ แล้วเอามาวางปูบนแป จะไม่สามารถวางลาดได้มากนัก

ที่เคยอ่านมา จะเอียงได้ประมาณ
25-35 องศา ตามสเปคแล้ว ตัวเลขจะน้อยกว่านี้ แต่ในทางปฏิบัติ ในเมืองไทย
ไม่ค่อยมีใครมุงลาดกว่านี้
เพราะมีโอกาสที่น้ำฝนจะย้อนกลับได้!

แต่เมทัลชีทสามารถวางลาดเอียง
ได้ถึง 4-5 องศา สำหรับรุ่นธรรมดา

เอ๊ะ ! มันมีรุ่นไม่ธรรมดาด้วยเหรอ
มีครับ หลังคาเมทัลชีทนี่
มีหลายเกรด หลายรุ่นนะครับ..

ถ้าถูกๆหน่อยก็จะเป็นแผ่นบางๆ
ไม่กี่มิล เหมาะสำหรับมุงหลังคาที่จอดรถ ถ้าราคาสูงขึ้น ก็จะหนาขึ้น อย่าง
บ้านพักอาศัยทั่วไป ก็ไม่ควรใช้บางกว่า 0.47 มิลลิเมตรนะครับ

บ้านผมสถาปนิกแกออกแบบให้ลาดเอียงประมาณ 2 องศา ตอนแรก
ทีมผู้รับเหมาก็ไม่แน่ใจว่า มันจะเอียงได้ขนาดนั้น แต่พอตรวจสอบกับผู้ผลิต
แล้ว..เค้าบอกว่าสามารถทำมุมลาดขนาดนั้นได้ แต่ต้องเป็นรุ่นที่ออกแบบมาพิเศษนะ

เมทัลชีททั่วไป สันลอนจะไม่สูงมาก และยึดติดกับแปโดยใช้การยิงสกรูยึด
แต่รุ่นที่เค้าแนะนำคือ LYSAGHT KLIP-LOK 700 HI-TEN สันลอนจะสูง

และใช้ระบบยึดแผ่นแบบขบล็อค ไม่ต้องยิงสกรู สามารถวางลาดเอียง
ได้ต่ำสุดถึง 2 องศา

ซึ่งแน่นอน รุ่นที่ออกแบบมาพิเศษ
คงจะไม่ถูกกว่ารุ่นทั่วๆไปแน่

“ ก็แค่ ต่างกันไม่กี่องศา
เอารุ่นธรรมดาก็ได้มั้ง ”
หมอผึ้งเอ่ยขึ้นมา

ผมเองก็เห็นด้วยกับหมอผึ้ง
(อยู่ด้วยกันนานๆ ความงกเริ่มซึมซับ)

แต่สถาปนิกเบรกตัวโก่ง!

“ ไม่ได้นะพี่ ถ้า 4-5 องศา บ้านพี่หมอ
จะดูเป็น เพิงหมาแหงนเลยนะ ”

มันจะแหงนขนาดไหนเชียว คิดได้ดังนั้น ผมก็เลยให้สถาปนิกกับวิศวกร ลองร่าง
ภาพให้ดูว่า ไอ้องศาที่ต่างกัน 2-3 องศาเนี่ย มันมีนัยสำคัญขนาดไหน

ภาพที่ออกมา
ปรากฏว่า “ ต่าง” กันจริงๆครับ

เพราะ 5 องศา ก็คือมุมลาด 1/12 ขณะที่ 2 องศา มุมลาด 1/30 ก็แทบจะครึ่ง
ต่อครึ่ง..ผมก็เลยให้ผู้รับเหมาลองประเมินราคาดู

ว่าระหว่างใช้เมทัลชีทแต่ละแบบ ราคาจะต่างกันมากแค่ไหน คุ้มกับการไม่ยอม
ให้มันแหงน..มากหรือไม่ รวมทั้งเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับหลังคาแบบอื่นๆด้วย

ซึ่งพบว่า หากเปรียบเทียบเฉพาะ
ค่าวัสดุและค่าติดตั้ง
(ตัวแผ่นหลังคาอย่างเดียว)

ค่าใช้จ่ายต่อตารางเมตร
จะเป็นอย่างนี้ครับ (จากถูกไปแพง)
Cpac Monier < Trimdek < Prestige <Neustyle < Klip-lok แต่อย่าลืมว่า
ถ้าไม่ใช่เมทัลชีทหลังคาพวกนี้จะต้องวางสโลป 30 องศา

ทำให้ต้องใช้ตัวกระเบื้องปริมาณมาก กว่า บวกกับระยะห่างระหว่างแปที่สั้น
กว่า..ทำให้ต้องใช้โครงสร้างเหล็กมารับมากกว่าเมทัลชีทเสียอีก ไปๆมาๆ พอคิด
เป็นค่าใช้จ่ายรวม
(วัสดุมุง โครงเหล็ก ค่าแรง ค่าติดตั้ง)

จะออกมาเป็นอย่างนี้ครับ Trimdek < Cpac Monier < Prestige < Klip-lok
< Neustyle 2 ตัวแรก ราคาใกล้เคียงกัน ขณะที่ 3 ตัวที่เหลือจะเกาะกลุ่มกัน
ถูกแพงกว่ากันไม่มาก

จะเลือกตัวไหน ก็แล้วแต่ชอบนะครับ ตัวเมทัลชีทแบบที่ผมใช้ แพงกว่าแบบ
ทั่วไปพอสมควร แต่ก็ไม่ต่างกับนิวสไตล์มาก หลังจากปรึกษากันแล้วเราสองคน
ก็เลยเลือกแบบ Klip-lok ด้วยเหตุผลของความสวยงาม และราคาที่พอรับได้

แต่แม่ผมสิ.........

“ สังกะสีอย่างนี้
มันแพงขนาดนี้เชียวเหรอ ”
แม่ผมถาม

“ เอาอีกแล้วแม่ บอกแล้วไงว่ามัน ไม่ใช่!
สังกะสีบ้านๆนะ เค้าเรียก เมทัลชีท ”

“ นั่นแหละ ใครไม่รู้จัก ก็คิดว่าเป็นสังกะสีแหละแม่สร้างเอง ไม่เอา
หลังคา...อย่างนี้เด็ดขาด ”

ว่าเข้าไปแม่ผม เห็นที
ต้องใช้ไม้ตาย..ซะแล้ว!

“ แล้วยังไงแม่ หมายความว่า ถ้าลงมา
กรุงเทพแล้ว จะไม่พักบ้านมุงสังกะสีของโจใช่มั้ย ? ”

ได้ผลชะงักครับไม้ตายนี้ ตอนหน้าจะมา
เล่าต่อ ถึงการเตรียมการ และการติดตั้งเมทัลชีลครับ

-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป-

ไปหน้าสารบัญ
ประสบการณ์การสร้างบ้าน