|
ประสบการณ์สร้างบ้าน
เรื่องจริงผ่านเน็ท โดยเจ้าของบ้าน |
โดย หมอโจ
มุมมองเจ้าของบ้าน ตอนที่ 59
อยากได้บ้านเย็น ประหยัดพลังงาน ต้องวางแผน
“ มันแพงกว่าอย่างอื่นไม่ใช่เหรอ ”
“ เห็นว่าตอนแรก ไปจองฉนวนเขียวแล้วด้วยนี่ แล้วทำไมไม่เอา ”
หะ . . . แม่ผมรู้ได้ยังไงเนี่ย สงสัยลูกสะใภ้ตัวดี จะไปฟ้องแหงๆ
เมื่อแม่ผัวกับลูกสะใภ้จอยกันได้ . . .
ผมชักรู้สึกบรรยากาศมันน่ากลัวยังไงพิกล
เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อเกือบ1ปีที่แล้ว ตอนที่ยังพึ่งจะลงเสาเข็มได้ไม่กี่ต้น
ผมได้แอบหนีหมอผึ้งไปเดินงานบ้านและสวนแฟร์คนเดียว
แล้วก็เผลอไปจองฉนวนเขียวโดยไม่บอกคุณเธอก่อน
ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เห็นน้องที่บูธเค้าน่ารักดี
ก็เลยช่วยๆจองทำยอดให้น้องเค้า
พอหมอผึ้งรู้เข้า แกก็ไม่ว่าอะไร
แค่ลงไม้ลงมืออย่างเดียว . . . อูยยยย . . .
ตะ...ตะ...ตั้งแต่นั้นมา จะซื้ออะไร ละ...ละ...เลยต้องให้เมียเห็นชอบก่อนทุกครั้ง
ฉนวนเขียวที่ว่า ผมหมายถึง ฉนวนไฟเบอร์กลาสสีเขียวๆที่หุ้มด้วยฟอยล์
ยี่ห้อ “ อยู่เย็น” ที่วางขายกันทั่วไปนั่นแหละครับ
จริงๆแล้วมันมีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนที่คุ้มราคามากๆตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ที่มันคุ้มก็เพราะ เจ้าอยู่เย็นที่ว่านี้ มีวางขายถึง 3 ความหนา
คือ 3,4.5 และ 6 นิ้ว
และราคาก็ไม่ได้แพงมาก
ความหนาเนี่ยแหละครับ ทำให้มันกันความร้อนได้ดี
เพราะคุณสมบัติกันความร้อนของฉนวน เราจะดูที่ค่าการกันความร้อน (R)
ซึ่งจะสัมพันธ์กับค่า k และความหนาของฉนวนครับ จากสูตร
R = ความหนา /k
ค่า k คือ ค่าสัมประสิทธิ์การ นำ ความร้อน ยิ่งมีค่าน้อยๆ ยิ่ง กัน ความร้อนได้ดี
ตรงข้ามกับความหนา ยิ่งหนามากๆ ยิ่งกันความร้อนได้มาก
ฉนวนไฟเบอร์กลาสมีค่า k ที่ไม่ได้เหนือกว่าฉนวนอื่นมากนัก
เรียกว่าถ้าเทียบกันตัวต่อตัว ที่ความหนาเท่ากันแล้ว
อาจจะเป็นรองฉนวนบางตัวที่มีวางขายในบ้านเราอยู่ด้วยซ้ำ
แต่อาศัยว่ามีความหนากว่าใครเพื่อน ก็เลยกันความร้อนได้ดี และราคาไม่แพง
“ ดูตามสูตรแล้ว ถ้าอย่างนั้น เอาอะไรมาทำเป็นฉนวนก็ได้สิ “
“ ขอให้หนาๆไว้ก่อน ”
“ ก็ใช่สิพี่ หน้าที่ของฉนวนเป็นแค่ตัวหน่วงให้ความร้อนเข้าบ้านได้ช้าเท่านั้นเอง ”
“ พี่ก่อผนังเบิ้ลสองชั้น หนาขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นฉนวนแล้วนะ ”
“ ยกเว้นว่าพี่เอาวัสดุที่ค่า k สูงๆ อย่างเหล็กมาทำ อันนี้คงไม่ช่วย ” สถาปนิกตอบผม
“ แต่ถ้าพี่ใช้วัสดุหนาๆมากๆ ก็เปลืองเปล่าๆ ”
“ ยิ่งถ้าพื้นที่เหนือฝ้าไม่มากอย่างบ้านพี่ ใช้ฉนวนเขียวปูจะลำบากในการติดตั้ง ”
“ แต่ที่ผมห่วงบ้านพี่ นอกจากเรื่องกันร้อนแล้ว ”
“ ยังมีเรื่องกันเสียง อีกเรื่องหนึ่ง ”
ใช่แล้วครับ หลังคาเมทัลชีทบ้านผมเสียงดังสนั่นหวั่นไหวมากตอนนี้
ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกหนักๆ แทบจะคุยโทรศัพท์ไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว
ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเสียงฝนที่กระทบโลหะ ผ่านลงมาสู่ห้องที่ยังไม่ได้ปูฝ้าโดยตรง
อีกส่วนหนึ่งน่าจะผ่านเข้ามาทางผนังบ้านที่ยังไม่ปิดกระจก
นี่เป็นข้อด้อยของหลังคาเมทัลชีท
ใครที่คิดจะใช้ต้องหาทางป้องกันด้วยนะครับ
การจะใช้ฉนวนเขียววางเหนือฝ้า
แม้จะถูกกว่า แต่ดูจะไม่แก้ปัญหาเรื่องเสียงดังให้บ้านผมได้
ครั้นจะปูฉนวนเหนือฝ้าร่วมกับพ่นโฟมกระดาษเก็บเสียง ก็ดูจะอลังการงานสร้างไปหน่อย
ราคาก็ไม่ได้ถูกกว่าพ่นพียูโฟมอย่างเดียวเท่าไหร่นัก
ส่วนฉนวนพีอีโฟม หรือโพลี่เอททิลีน
เป็นฉนวนอีกแบบหนึ่งทำจากโพลี่เอทิลีนกับแผ่นสะท้อนความร้อน
หนาประมาณ10มิลลิเมตร ( แค่ความหนาก็สู้ตัวอื่นไม่ได้แล้ว) ยึดติดกับเมทัลชีทโดยอาศัยกาว
(ส่วนใหญ่จะติดมาตั้งแต่โรงงาน) และก็มักจะมีปัญหาหลุดร่อนได้บ่อย ถ้ากาวไม่ดีพอ
ส่วนเรื่องกันเสียง ก็ได้ระดับหนึ่งเพราะความที่มันไม่หนานัก
หน้าตาเจ้าฉนวนพีอีที่ว่าครับ ความหนาสู้ฉนวนเขียวไม่ติดเลย
ฉนวนอีกชนิดที่ตอนแรกผมเกือบจะเคลิ้มตามไปแล้ว ก็คือ ฉนวนเยื่อกระดาษหรือเซลลูโลส
ตอนนั้นกระแสรักษ์โลกกำลังมาแรง ใครๆก็พยายามใช้วัสดุรีไซเคิล
ซึ่งตรงคอนเซ็ปฉนวนแบบนี้พอดี จุดเด่นของมันคือเก็บเสียง
ซับเสียง กันเสียงสะท้อนได้ดีมาก เผลอๆจะเด่นกว่าคุณสมบัติกันความร้อนเสียอีก
ตัวโฟมที่เป็นเยื่อกระดาษเค้าจะผสมกาวเข้าไปเพื่อให้มันยึดเกาะได้
พอเอามาพ่นใต้เมทัลชีท ก็จะยึดเกาะ แต่ผมดูแล้ว ไม่แน่ใจว่ามันจะร่วงหล่นง่ายรึเปล่า
(มารู้ทีหลังว่า มันเหมาะกับเอาไปทำฉนวนในห้องโฮมเธียเตอร์ซะมากกว่า)
ผมกลับมาปรึกษาหมอผึ้ง ขอความเห็นชอบ
คิดว่าใจเธอคงอยากได้ฉนวนเขียวเพราะราคาถูกกว่า แต่ปรากฎว่า
“ อย่าเอาฉนวนไฟเบอร์กลาสเลยพี่ ”
“ ถ้าฟอยล์ฉีกขาดมา ละอองมันฟุ้งกระจาย ”
“ จะทำให้เกิด Fiberglass Dermatitis ได้นะ ”
คุณเธอไม่พูดเปล่า เอาตำราแพทย์มากางให้ผมดูด้วย
ลักษณะผื่นคันที่หมอผึ้งพูดถึงครับ
เหมือนๆ ผื่นแพ้สารเคมีอื่นๆ
แต่พอเอาผื่นไปตรวจดูจะพบเจ้าไฟเบอร์กลาสเนี่ยแหละครับ
(ขอบคุณรูปจาก dermnet.comครับ)
“ ไหนจะทำให้เกิด pneumoconiosis* อีก
นี่ยังไม่นับว่ามันจะเป็น carcinogen** อีกรึเปล่า ”
แทรกคำแปลนิดนะครับ
* pneumoconiosis
คือโรคปอดที่เกิดจากการหายใจเอาฝุ่นละอองสารอนินทรีย์เข้าไปเป็นเวลานานๆ
ทำให้เกิดพยาธิสภาพที่ปอดเป็นพังผืด สารที่ทำให้เกิดโรคนี้ เช่น
ฝุ่นถ่านหิน (กรณีที่แม่เมาะ) ฝุ่นหินจากโรงงานระเบิดโม่หิน
ฝุ่นฝ้ายจากโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ และฝุ่นอื่นๆ
รวมถึงฝุ่นไฟเบอร์กลาสจากฉนวนหลังคาบ้าน ( ถ้าฟอยล์มันแตกนะครับ)
** carcinogen คือสารก่อมะเร็งครับ
(ออกจะวิชาการหน่อยนะครับตอนนี้)
หลังจากหารือกันอยู่พักหนึ่ง ก็เป็นอันว่า ที่ประชุม (ซึ่งมีกันสองคน)
ลงมติให้ใช้ฉนวนพียูโฟมครับ
หน้าที่ต่อไปของผมก็คือ สอบถามราคาและหาเจ้าที่พร้อมจะมาทำให้
ผมสอบถามราคาจากทั้งจากร้านในเน็ท ร้านริมถนน ร้านที่คนรู้จักแนะนำ
รวมถึงตามโบรชัวร์ของโฮมโปร (แพงโคตรๆ ขอบอก)
นอกจากจะได้ราคาแล้วก็ยังได้ข้อมูลเรื่องฉนวนพียูมาพอสมควร
ฉนวนพียูโฟมชนิดพ่น หรือโพลี่ยูรีเทน
มีค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อน(k) ที่ต่ำกว่าตัวอื่นๆที่มีขายในท้องตลาดเวลานี้
เป็นรองแค่สูญญากาศ (เค้าโม้มายังงี้)
เวลาพ่นไปแล้ว เนื้อโฟมจะเกาะกันแน่น โมเลกุลเรียงกันเป็น closed cells
ไม่มีรูโพรงอากาศ จึงช่วยดูดซับเสียงได้ด้วย
ทนกรดทนด่าง ติดไฟได้ แต่ไม่ลามไฟ (เป็นยังไง เดี๋ยวตอนหน้าจะเผาให้ดูจะๆ)
น้ำหนักเบา ไม่ยุบตัว
เรื่องการยุบตัวก็สำคัญนะครับ จำได้มั้ยว่า ค่า R แปรผันตรงกับความหนา
ยิ่งหนามากยิ่งดี แต่วัสดุฉนวนบางตัว เวลาใช้ไปนานๆจะยุบตัวลง
ความหนาก็จะลดลง ส่งผลให้กันความร้อนได้ลดลงด้วย
จริงๆมีคุณสมบัติอีกมากบรรยายได้ไม่หมด แต่เอาเป็นว่า
ถ้าบ้านใครหลวมตัวมาใช้หลังคาเมทัลชีทแบบผมแล้ว ฉนวนพียูโฟมพ่น เหมาะที่สุด
แต่ถ้าเป็นหลังคาแบบอื่น
ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละท่านนะครับ
ที่เล่ามาตั้งแต่ต้นเนี่ย เป็นฉนวนกันความร้อนประเภท mass insulation
คือหน่วงให้ความร้อนเข้าบ้านได้ช้าได้น้อยลง
แต่ยังมีวัสดุกันความร้อนอีกประเภทที่ใช้วิธีสะท้อนความร้อนออกไป (reflective insulation )
คงพอนึกภาพออกนะครับ บ้านผมก็ใช้ครับ แต่ยังไม่ได้ทำในตอนนี้
เอาไว้ทำเมื่อไหร่จะมาเล่าอีกทีครับ
ตอนหน้าจะพาไปดูการพ่นโฟมพียูบ้านผมกัน
ถ้าอยากดูเร็วๆ ก็เร่งเฮียบอกอ ให้รีบลงตอนต่อไปละกันนะครับ
ช่วงนี้แกอู้งานจังเลย
ไม่รู้ไปหัวงูอยู่แถวไหนรึเปล่าเนี่ย
แทงหลังกันเห็นๆ
-โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป -
หากมีข้อสงสัย
ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการว่าจ้างผู้รับเหมา
และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้าน ปรึกษาได้ฟรีครับ
โดยคลิกที่ไอคอนข้างล่างนี้
ไปหน้า..สารบัญเรื่องจริงผ่านเน็ท
ประสบการณ์สร้างบ้านของเจ้าของบ้าน
|