โดย..เสาเอก
เราจึงเริ่มต้นหาที่ดินริมแม่น้ำที่ไม่ไกลจากบ้านที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน
เพราะว่าถ้าวันหนึ่ง ต้องย้ายไป.....คุณพ่อที่อายุ แปดสิบกว่าๆ จะได้ย้ายไปอยู่ด้วย ....
การย้ายบ้านสำหรับผู้สูงอายุ เป็นเรื่องยาก
เพราะคนแก่ย้ายที่อยู่ยาก ชอบจะอยู่ที่..ที่คุ้นเคย กับคนที่เคยรู้จักเดิมๆ
ไม่ชอบแปลกใหม่และไม่ชอบปรับตัว
เริ่มแรกบอกผ่านทางนายหน้าให้ช่วยหาที่ดิน ติดริมแม่น้ำ อยากได้ที่สัก 2 งาน
นายหน้าหายไปพักใหญ่ มาบอกเป็นระยะๆว่าแปลงนี้ขาย แปลงนั้นขาย
เราก็ขับรถตามไปดูที่ต่างๆ แปลงนี้ไม่ชอบ เพราะทางเข้าออกไม่ดี แปลงนั้นที่มันลุ่มมากไป น้ำท่วมแน่ๆ
แปลงโน้นขนาดกำลังดี เหลี่ยมสวย แต่ตอนเย็น แดดส่องพอดี...
อดนั่งพักผ่อนริมแม่น้ำแน่ๆเลย เพราะคงร้อนจนมืด ไม่ดีหรอก
สุดท้าย..มาชอบแปลงของคุณป้า... แต่ที่ดินของคุณป้ายาว 200 เมตร ติดด้านแม่น้ำ 30 กว่าเมตร
เรียกว่ายาวเป็นผ้าขาวม้าเลย รวมเนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน โอ โห... อยากได้สัก 2 งาน
ป้าจะแบ่งขายเฉพาะที่ด้านติดแม่น้ำไหม? ไม่มีทางแน่ๆ ดังนั้นคงต้องซื้อยกแปลง
นายหน้าไปติดต่อกับคุณป้า ...... กลับมาบอกว่าป้าไม่ขายหรอก ยังอยากอยู่ที่นี่แหละ
ตอนแรกที่บอกขายเพราะหลานๆอยากให้ป้าย้ายไปอยู่ด้วย
เพราะป้าแก่แล้วอยู่บ้านคนเดียวเป็นอะไรไปจะลำบาก
แต่สุดท้ายป้าบอกว่าป้าอยู่ได้ ยังไม่ขาย ......
เวลาผ่านไป....ผ่านไปอีก 1 ปีกว่า ... เราสองคนยังมองหาที่ดินที่อยากปลูกบ้านไปเรื่อยๆ
ยังไม่มีที่ถูกใจเลย จน สิงหาคม 2548 มีคนมาหาที่บ้าน บอกว่าเป็นหลานของป้าที่เคยอยากขายที่ติดริมแม่น้ำ
คุณยังสนใจอยู่ไหม พอดีป้าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม อยากขายที่พร้อมบ้านเก่าด้วย จะได้ย้ายไปอยู่กับหลาน
เพื่อป้าได้รักษาและได้ดูแลใกล้ชิด ....มีคนเคยบอกว่าของที่ไม่ใช่ของเรา ...ก็ไม่ใช่ของเรา
อยากได้ก็มีเหตุทำให้ไม่ได้ แต่อะไรที่เป็นของเรา .. สุดท้าย ของนั้นก็จะมาเป็นของเรา .....
เรื่องดำเนินการซื้อขายที่ดินจึงเริ่มขึ้น ..แล้ววันโอนที่ดินพร้อมจ่ายค่านายหน้า 3% ก็ผ่านไป
หลังจากจ่ายค่าที่ดิน 3 ไร่ 3 งาน ติดริมแม่น้ำแปลงสวยหมด ก็หมดตัวพอดี
ขอไปเมียงมองที่ดินของเราไปก่อน นะ มองแล้วฝันต่อไปว่าอีกหน่อยตรงนี้จะมีบ้านหลังเล็กๆริมน้ำ
คงเป็นความสุขยามชราภาพ
- โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป -
ไปหน้า..สารบัญเรื่องจริงผ่านเน็ท
ประสบการณ์สร้างบ้านของเจ้าของบ้าน